นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานและโฆษกกลุ่มฯ ยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่งออกได้ 78,692 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 5.26% และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ 12.22% มูลค่าการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 72,632.02 ล้านบาท ลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ 6.52%
ทั้งนี้ ส่งผลให้ช่วง 11 เดือนปี 2568 (ม.ค.-พ.ย.) มียอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 850,787 คัน ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกัน 9.77% โดยมีความกังวลว่าอาจไม่ถึงเป้าปี 2568 ที่ตั้งไว้ที่ 9.5 แสนคัน เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนของภาษีสหรัฐฯ ในส่วนของมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 567,983.18 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2567 ที่ 12.18%
"ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขเดือนธันวาคม 2568 เบื้องต้นสถานการณ์เรื่องการส่งออกยังมีความไม่แน่นอน ต้องรอดูภาษีทรัมป์ว่าจะสุดท้ายแล้วจะผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 1-2/69 ส่วนการผลิตรถยนต์เพื่อขายในประเทศ ก็ต้องรอดูความชัดเจนว่า เมื่อมีการเลือกตั้ง ใครจะเป็นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี นอกจากนี้ ต้องรอดูว่างบประมาณรายจ่ายปี 70 จะผ่านสภาได้เมื่อไร จะทันใช้ในวันที่ 1 ตุลาคม หรือไม่ นโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาเป็นของพรรคไหน มาตรการเศรษฐกิจที่จะกระตุ้น ซึ่งคาดว่าช่วงกลางปีหน้าน่าจะเห็นความชัดเจน
สำหรับในปี 2569 ส.อ.ท. คาดผลิตรถยนต์อยู่ที่ 1.45 ล้านคัน และยอดส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 9.5 แสนคัน เท่ากับปี 68 โดยจะรอประเมินสถานการณ์ความชัดเจนของภาษีทรัมป์ และการเลือกตั้งในปีหน้าก่อน


