นายวิทัย รัตนากร ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า จากที่ได้หารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการกำหนดกรอบเป้าหมายนโยบายการเงินปี 2569 โดยยังคงกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อระยะปานกลางไว้ที่ 1-3% เหมือนเดิม ส่วนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อไรนั้น ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังจะนำเสนอ ซึ่งคาดว่าจะภายในเดือนธันวาคมนี้
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ในปี 2569 เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลง และจากที่ได้หารือกับ รมว.คลัง จะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดเงินฝืด โดยคาดว่าจะกลับเข้าสู่กรอบได้ภายในปี 2570
ขณะที่ความคืบหน้ากองทุนค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอี 100,000 ล้านบาทนั้น ในวันที่ 26 ธันวาคมนี้ จะมีการแถลงข่าวและพิธีลงนาม MOU ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง สมาคมธนาคารไทย และ สมาคมธนาคารนานาชาติ เกี่ยวกับมาตรการชดเชย credit cost สำหรับสินเชื่อปล่อยใหม่ให้กับเอสเอ็มอี เพื่อแก้ปัญหาสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ติดลบมา 13 ไตรมาสติดต่อกัน เนื่องจากธนาคารไม่กล้าปล่อยกู้เพราะความเสี่ยงด้านเครดิตของเอสเอ็มอีสูง
นายวิทัย กล่าวว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีได้ติดลบมาเป็นกว่า 13 ไตรมาสติดต่อกัน ซึ่งกลไกค้ำประกันสินเชื่อนี้ เป็นการค้ำประกันสินเชื่อให้เอสเอ็มอีกรอบวงเงิน 100,000 ล้านบาท เพื่อให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน และได้รับสินเชื่อจากธนาคารได้มากขึ้น โดยเรื่องนี้ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี สามารถร่วมมือกัน ผ่านการ MOU และดำเนินการได้เลย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุม กนง. ได้คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 อยู่ที่ติดลบ -0.1% ส่วนปี 2569 อยู่ที่ 0.3% และปี 2570 มีแนวโน้มอยู่ที่ 1.0% และคาดว่าจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงครึ่งแรกของปี 2570 และเห็นควรให้ติดตามความเสี่ยงภาวะเงินฝืดอย่างใกล้ชิด
ส่วนมาตรการค้ำประกันสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่ จะร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารพาณิชย์ ออกมาเสริมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงสินเชื่อ โดยตั้งเป้าค้ำประกันปล่อยสินเชื่อให้ได้ 100,000 ล้านบาท มีการค้ำประกัน 10-30% ขึ้นอยู่กับธุรกิจ โฟกัสอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพทางการแข่งขัน เช่น อาหาร เกษตรแปรรูป ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดการลงทุนใหม่


