กรมปศุสัตว์ได้เร่งช่วยเหลือเกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเน้นทั้งการดำเนินการเฉพาะหน้าและการสำรวจความเสียหาย เพื่อเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด
กรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการอพยพสัตว์ออกจากพื้นที่เสี่ยงสะสมแล้ว 809 ตัว ให้การช่วยเหลือสัตว์รวม 15,945 ตัว และรักษาสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยแล้ว 949 ตัว ที่ผ่านมาได้สนับสนุนด้านอาหารตั้งแต่เกิดเหตุปะทะ โดยแจกจ่ายอาหารหยาบแห้ง อาหารข้น และอาหารสำหรับสุนัขและแมว พร้อมแจกถุงยังชีพสัตว์และชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ โดยยังคงเดินหน้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือได้กำหนดตามประเภทสัตว์เลี้ยง จำแนกตามช่วงอายุ และจำนวนสูงสุดที่ให้ความช่วยเหลือต่อราย ดังนี้
- โค อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราชดเชยไม่เกิน 35,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)
- กระบือ อายุ 2 ปีขึ้นไป อัตราไม่เกิน 39,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 5 ตัว/ราย)
- สุกร อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)
- แพะ/แกะ อายุ 30 วันขึ้นไป อัตราไม่เกิน 3,000 บาท/ตัว (ไม่เกิน 10 ตัว/ราย)
- สัตว์ปีก เช่น ไก่ เป็ด นกกระทา นกกระจอกเทศ อัตราช่วยเหลือแตกต่างกันตามช่วงอายุและประเภท โดยช่วยเหลือสูงสุด 300–1,000 ตัว/ราย
- แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ชดเชยในอัตรา 1,980 บาท/ไร่ ไม่เกิน 30 ไร่/ราย
เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ได้รับผลกระทบสามารถติดตามข้อมูล แจ้งความเสียหาย หรือขอรับความช่วยเหลือ ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ / จังหวัด หรือผ่าน แอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


