กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (IC-GPOS) ระหว่างวันที่ 17 - 18 ธันวาคม 2568 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมประชุม 338 คน จาก 58 ประเทศสหภาพยุโรป 5 องค์การระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ ส่วนกัมพูชาไม่ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม
โดยในจำนวนนี้มีผู้แทนระดับรัฐมนตรี 7 ประเทศ ประกอบด้วยรวันดา ไทย เมียนมา อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และจีน
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเปิดประชุม ว่า ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้า สังคมไร้พรหมแดน ก่อให้เกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ คือ สแกมเมอร์ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความช่วยเหลือในการส่งกลับบุคคลกว่า 10,000 คน จากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งได้รับการช่วยเหลือออกมาจากศูนย์ปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน สถานการณ์นี้ชี้ให้เห็นความจริงประการหนึ่งอย่างชัดเจนว่า ไม่มีประเทศใดสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยลำพัง
นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า พวกเราจำเป็นต้องประสานการทำงานให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น และปฏิบัติการให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อช่วยเหลือและคุ้มครองเหยื่อ เพื่อแยกแยะระหว่างเหยื่อและผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน ตลอดจนเพื่อสืบสวนสอบสวน ดำเนินคดีกับเครือข่ายอาชญากรรม และป้องกันมิให้มีเหยื่อรายใหม่ตกลงไปในกับดักเหล่านี้ การดำเนินการดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ รวมถึงแนวทางที่ผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนของสังคม โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินมาตรการภายในประเทศอย่างรอบด้าน เฉพาะในส่วนของการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงออนไลน์นั้น เราสามารถยึดทรัพย์ได้มูลค่าเกือบ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ เรายังทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคเอกชนและภาคประชาสังคมเพื่อเสริมสร้างมาตรการป้องกันและสร้างความตระหนักรู้แก่สาธารณชนในระดับระหว่างประเทศ ไทยมีความภาคภูมิใจที่เป็นหนึ่งใน 72 รัฐภาคีที่ได้ลงนามในอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ (UN Convention Against Cybercrime)
นายสีหศักดิ์ ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการเสริมสร้างความร่วมมือระดับโลก เพื่อต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ หากต่างคนต่างทำ เราอาจจับกุมได้เพียงผู้ปฏิบัติการรายย่อย หรือปลาตัวเล็ก ในขณะที่เครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ หรือปลาตัวใหญ่ ยังคงลอยนวล เราจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เราสามารถรวมพลัง แลกเปลี่ยนข่าวกรอง และปฏิบัติการร่วมกันได้อย่างมีการประสานงานที่ดียิ่งขึ้น
นายสีหศักดิ์ ย้ำว่า ประเทศไทยริเริ่มการประชุมครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อสร้างเวทีการหารือขึ้นมาซ้ำซ้อนกับที่มีอยู่เดิม แต่เจตนารมณ์ของเราคือเพื่อเติมเต็มความพยายามที่มีอยู่ และมุ่งเน้นอย่างจริงจังไปที่การลงมือปฏิบัติ เวทีนี้ถูกออกแบบมาให้เป็นกลไกสำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย เป็นพื้นที่ที่ประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน องค์การระหว่างประเทศ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ปรับประสานแนวทางการทำงาน และขับเคลื่อนจากการหารือไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม
ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น ประเทศไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การจัดตั้งหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลก เพื่อต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือที่ก่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรม มิใช่เพียงแค่เจตนาที่ดีเท่านั้น การดำเนินการนี้คือเครื่องพิสูจน์ถึงเจตจำนงทางการเมืองร่วมกันของเรา
นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีการรับรอง แถลงการณ์ร่วมกรุงเทพฯ (Bangkok Joint Statement) และขอเชิญชวนทุกประเทศและทุกภาคส่วนร่วมแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนแถลงการณ์ และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหุ้นส่วนความร่วมมือระดับโลกนี้
นายสีหศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อาชญากรรมการฉ้อโกงออนไลน์เป็นภัยคุกคามระดับโลก การตอบสนองของเราจึงจำเป็นต้องอยู่ในระดับโลกเช่นเดียวกัน มีเพียงการร่วมมือกันเท่านั้น เราจึงจะสามารถปกป้องประชาชนของเรา ธำรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และเป็นหลักประกันว่าเทคโนโลยีจะได้รับใช้ความก้าวหน้าอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย โดยก่อนการประชุมนายสีหศักดิ์ ได้เข้าไปทักทายพูดคุย และขอบคุณที่ตอบรับเข้าร่วมประชุม


