น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวถึงกรณีการบูรณะโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายจากการปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา โดยยืนยันว่า ไทยไม่ได้โจมตี แต่ดำเนินการตามหลักการป้องกันตัวตามหลักสากล และตามหลักความมั่นคงของประเทศ
น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า การที่โบราณสถานถูกทำลายนั้น เบื้องต้นยังไม่ทราบว่ามีการถูกทำลายก่อนเกิดการปะทะหรือไม่ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบ โบราณสถาณเหล่านี้ประเทศไทยเพิ่งยึดคืนมาได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และการยึดของเรา เราก็ต้องพิสูจน์ว่าเมื่อโบราณสถานเหล่านั้นอยู่ในพื้นที่อธิปไตยของเราแล้ว เราจะต้องวางแผนงบประมาณในการบูรณะซ่อมแซม พร้อมยืนยันว่าเราไม่ได้ใช้โบราณสถานในการเป็นบังเกอร์หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการทหาร แต่เราจะทำโบราณสถาณให้เป็นโบราณสถานจริงๆ ที่จะต้องมีการบูรณะซ่อมแซม
เมื่อถามว่าได้ประเมินระยะเวลาที่จะบูรณะโบราณสถานนานเท่าใด น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า เบื้องต้นกรมศิลปากรยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ แต่เรื่องเทคนิคการซ่อมแซมไม่ได้มีความซับซ้อน และกรมศิลปากรมีศักยภาพพอในการบูรณะซ่อมแซม ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นาน
ส่วนกรณีในพื้นที่โดยรอบโบราณสถานยังมีทุ่นระเบิด จะมีการดูแลความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบอย่างไรบ้าง น.ส.ซาบีดา ระบุว่า ต้องรอฝ่ายความมั่นคงให้คำยืนยันว่าเราสามารถเข้าไปสำรวจและทำการบูรณะได้ พร้อมย้ำว่า จะต้องมีการเคลียร์พื้นที่ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย จึงจะสามารถเข้าไปสำรวจได้
สำหรับการบูรณะ ตอนนี้มีเทคนิคใหม่ในการซ่อมแซม แต่รูปแบบยังคงเหมือนเดิม ซึ่งได้มีการศึกษาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ย้ำว่า จะต้องมีการสำรวจก่อนเข้าบูรณะอย่างแน่นอน
ส่วนที่ทหารกัมพูชาเข้าไปใช้ตัวปราสาทในการเป็นฐานปฏิบัติการ และเมื่อเกิดการปะทะกัมพูชาโจมตีไทยว่าทำลายโบราณสถานนั้น จะมีการทำหนังสือประท้วงอย่างไร น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า การที่ประเทศไทยจะทำอะไรต้องยึดหลักสากล และดูข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน ตอนนี้เหมือนเรากำลังพูดถึงปลายเหตุจนลืมไปว่าต้นเหตุของโบราณสถานถูกทำลายเกิดจากอะไร ซึ่งกัมพูชาใช้เป็นวัตถุประสงค์ทางการทหารจนทำให้ประเทศไทยต้องป้องกันตัว และปกป้องอธิปไตยของไทย
ส่วนจะทำหนังสือประท้วงทุกช่องทางหรือไม่ น.ส.ซาบีดา กล่าวว่า ใช้ทุกเวทีในการตอบโต้ อย่างเวทียูเนสโก้ล่าสุด และจะตอบโต้ด้วยเหตุและผล ด้วยถ้อยแถลง


