สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันนี้ว่า ทางการเม็กซิโกออกหมายจับราอูล โรชา คานตู นักธุรกิจและเจ้าของร่วมมิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe) พร้อมพวกอีก 12 คน ในข้อหาพัวพันขบวนการลักลอบค้ายาเสพติด เชื้อเพลิง และอาวุธ
รายงานระบุว่า ราอูล ปฏิเสธข้อกล่าวหาทันที ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดเม็กซิโกแถลงว่าได้ออกหมายจับเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยระบุชื่อผู้ต้องหาเพียง "ราอูล อาร์" (Raul "R") สืบเนื่องจากการสอบสวนความเชื่อมโยงกับองค์กรอาชญากรรมที่เริ่มมานานกว่า 1 ปี
ด้านหนังสือพิมพ์มิเลนิโอ (Milenio) อ้างเอกสารศาลที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ว่า ราอูล ลักลอบขนเชื้อเพลิงและอาวุธเข้าเม็กซิโกผ่านทางกัวเตมาลา โดยร่วมมือกับกลุ่มอาชญากรรม และเจ้าตัวขอยื่นเรื่องเป็นพยานที่ได้รับความคุ้มครองแล้ว
เรื่องอื้อฉาวนี้บานปลายขึ้นเมื่อบริษัท เปเม็กซ์ (Pemex) หรือ Petroleos Mexicanos รัฐวิสาหกิจน้ำมันของเม็กซิโก เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยก่อนหน้านี้ เปเม็กซ์โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์เมื่อวันที่ 21 พ.ย. แสดงความยินดีกับ ฟาติมา บอช มิสยูนิเวิร์สคนล่าสุด พร้อมระบุว่าพ่อของเธอทำงานที่บริษัทนี้
ต่อมาเมื่อวันเสาร์ (22 พ.ย.) หนังสือพิมพ์เอล ยูนิเวอร์ซัล (El Universal) เปิดเผยข้อมูลโดยอ้างเอกสารภายในบริษัทว่า เปเม็กซ์มอบสัญญาจ้างมูลค่า 745 ล้านเปโซ (41 ล้านดอลลาร์) ผ่านกระบวนการประมูลให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับราอูล ซึ่งตรงกับช่วงที่แบร์นาร์โด บอช เฮอร์นันเดซ พ่อของฟาติมา เป็นผู้บริหารระดับสูงในเปเม็กซ์
สัญญาดังกล่าวลงนามเมื่อปี 2566 เพื่อให้บริการวางท่อส่งก๊าซเชื่อมต่อระหว่างเปเม็กซ์กับกลุ่มกิจการร่วมค้าที่นำโดยบริษัท Soluciones Gasiferas del Sur ของราอูล (ซึ่งซื้อหุ้น 50% ของธุรกิจมิสยูนิเวิร์สในปีเดียวกัน) โดยสัญญาเริ่มดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ถึง ธันวาคม 2566
ด้านเปเม็กซ์แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (23 พ.ย.) ปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับผู้บริหารกองประกวดมิสยูนิเวิร์ส ชี้แจงว่าที่โพสต์ยินดีเป็นไปตามกระแสสังคมเท่านั้น ส่วนราอูลชี้แจงผ่านวิทยุท้องถิ่นเมื่อวันจันทร์ (24 พ.ย.) ว่า บริษัทชนะประมูลสัญญาจ้างจากเปเม็กซ์ก่อนที่ตนจะเข้ามาทำธุรกิจมิสยูนิเวิร์ส และบริษัทอื่นในเครือของตนก็มีสัญญากับเปเม็กซ์เช่นกัน
คลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวถึงกรณีนี้เมื่อวันพุธ (26 พ.ย.) ว่า ไม่ควรนำผลสอบสวนธุรกิจของราอูลมาลดทอนเกียรติประวัติของผู้ชนะการประกวด โดยย้ำว่าต้องแยกแยะคดีความออกจากความสำเร็จส่วนตัวของนางงาม เพราะคนพยายามจะนำเรื่องนี้มาเหมารวมเพื่อดิสเครดิตฟาติมา


