นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปรามปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรา 13 ครั้งที่ 10/2568 และการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2568 ได้พิจารณามาตรการปราบ สแกมเมอร์ มีมติเห็นชอบ มาตรการเปิด โลเกชั่น ในแอปฯ โมบาย แบงก์กิ้ง ระหว่างทำธุรกรรมการเงิน ให้ดำเนินมาตรการให้ธนาคารเปิดการแสดงตำแหน่งที่ตั้ง (Location) ขณะที่มีการใช้แอปพลิเคชัน ในระหว่างการทำธุรกรรมการเงินของธนาคาร โดยการแสดงข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีการเผยแพร่เป็นสาธารณะ แต่จะถูกจัดเก็บไว้ใน ดาต้า เซ็นเตอร์ ของธนาคาร โดยหากมิจฉาชีพมีการโอนเงินผ่านแอปฯ จะทำให้สามารถเรียกข้อมูลเป็นหลักฐานได้ ซึ่งมาตรการนี้สามารถดำเนินการได้ทันทีใน 5 ธนาคารที่มีความพร้อมด้านระบบ ในส่วนของธนาคารอื่นๆ และผู้ให้บริการทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบัน การเงิน (นอน-แบงก์) ให้เร่งอัพเดตระบบ เพื่อเริ่มใช้งาน คาดว่าใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการปรับเงื่อนไขจดทะเบียนบัญชีม้านิติบุคคล (DBD) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมออกประกาศคำสั่ง 5 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันสแกมเมอร์ใช้ช่องทางการเป็นนิติบุคคลก่ออาชญากรรมออนไลน์ ได้แก่ บูรณาการรายชื่อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (14.3 ล้านคน) ร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบการขอจดทะเบียนนิติบุคคลของบุคคลในรายชื่อดังกล่าว ต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อจดทะเบียนนิติบุคคล และขยายการตรวจสอบข้อมูล จากเดิมที่มีการตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่เป็นเจ้าของ โดยให้เพิ่มการตรวจสอบขั้นตอนการขอจดทะเบียนกรรมการบริษัทที่เพิ่มเข้ามาใหม่ (มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการฯ) ซึ่งจากการตรวจสอบพบบุคคลในบัญชีม้าดำจำนวน 1,484 นิติบุคคล คิดเป็นจำนวนบุคคล 1,651 ราย
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการการปรับเงื่อนไขจดทะเบียนบัญชีม้านิติบุคคล (DBD) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กระทรวงพาณิชย์ ได้เตรียมออกประกาศคำสั่ง 5 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเป็นการป้องกันสแกมเมอร์ใช้ช่องทางการเป็นนิติบุคคลก่ออาชญากรรมออนไลน์ ได้แก่ บูรณาการรายชื่อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (14.3 ล้านคน) ร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อตรวจสอบการขอจดทะเบียนนิติบุคคลของบุคคลในรายชื่อดังกล่าว ต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อจดทะเบียนนิติบุคคล และขยายการตรวจสอบข้อมูล จากเดิมที่มีการตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่เป็นเจ้าของ โดยให้เพิ่มการตรวจสอบขั้นตอนการขอจดทะเบียนกรรมการบริษัทที่เพิ่มเข้ามาใหม่ (มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการฯ) ซึ่งจากการตรวจสอบพบบุคคลในบัญชีม้าดำจำนวน 1,484 นิติบุคคล คิดเป็นจำนวนบุคคล 1,651 ราย


