ดร.นพ.สราวุฒิ บุญสุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการตรวจวิเคราะห์เพื่อเฝ้าระวังการปลอมปนยาแผนปัจจุบันและวัตถุออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างต่อเนื่องโดยให้บริการตรวจแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่ายเสี่ยงพบการปลอมปนแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
1. กลุ่มเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ : ตรวจพบการปนเปื้อนของยา Sildenafil, Tadalafil, Vardenafil
2. กลุ่มยาลดน้ำหนัก : ตรวจพบ Sibutramine, Fluoxetine, Bisacodyl, Phenolphthalein, Ephedrine, Furosemide
3. กลุ่มยาช่วยการนอนหลับ : ตรวจพบ Alprazolam, Diazepam, Melatonin
4. กลุ่มสเตียรอยด์ : ตรวจพบ Dexamethasone, Prednisolone
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ดำเนินการตรวจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่จำหน่ายในท้องตลาด
ผลการตรวจพบว่า สารที่มีการปลอมปนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่เป็นยาในกลุ่มช่วยการนอนหลับ พบสาร Melatonin กลุ่มลดน้ำหนักพบสาร Sibutramine, Fluoxetine และกลุ่มรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พบสาร Sildenafil, Tadalafil ซึ่งได้รายงานผลการตรวจให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปแล้ว
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการปลอมปนยาแผนปัจจุบันหรือวัตถุออกฤทธิ์ มีผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคมักไม่ทราบปริมาณของสารที่ถูกปลอมปนซึ่งอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ความเป็นพิษต่อตับและไต สำหรับผู้ที่ใช้ยารักษาโรคประจำตัวอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา ทำให้ยาเดิมออกฤทธิ์แรงขึ้นหรือลดลงได้ และในบางกรณีอาจมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้


