นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ. มีมติให้เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับเรียกเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับงวดเดือนมกราคม - เมษายน 2569 เป็น 2 กรณี โดยเรียกเก็บที่ 4.58 และ 3.94 บาท/หน่วย
เนื่องจากต้นทุนหลัก ทั้งราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับการแข็งค่าของเงินบาท เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลดีเชิงบวกต่อค่าไฟ แนวโน้มค่าไฟจึงเข้าสู่ภาวะขาลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ กกพ. มีช่องว่าง โอกาส และทางเลือกในการบริหารความสมดุลระหว่างการลดลงของต้นทุนค่าไฟ กับการรักษาเสถียรภาพ และความมั่นคงของระบบพลังงานได้พร้อมกัน
นายพูลพัฒน์ ระบุว่า การทบทวนค่าไฟในงวดต้นปีหน้าจึงยังสามารถตรึงค่าไฟให้อยู่ในระดับเดิมที่ 3.94 บาท/หน่วยได้ อีกทั้งยังมีช่องทางในการเร่งลดภาระทางการเงินด้านเชื้อเพลิงล่วงหน้าให้แก่การไฟฟ้าฝ้ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 10-23 พฤศจิกายน 2568 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
ที่ผ่านมา กกพ.ได้ทยอยชำระคืนภาระหนี้ค่าเชื้อเพลิงจากต้นทุนคงค้าง (AF) ให้แก่ กฟผ. และ ปตท. โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2568 กกพ. ได้มีมติให้นำเงินเรียกคืนส่วนเกินรายได้ของการไฟฟ้ามาช่วยลดค่าไฟฟ้าจำนวน 12,200 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้ทยอยคืนค่า AFGas รวม 6 งวด โดยเริ่มคืนงวดแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2568 ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2568 ยอดคงค้างของค่า AF ลดลงเหลือ 47,058 ล้านบาท และต้นทุนค่าก๊าชธรรมชาติคงค้างของรัฐวิสาหกิจลดลงเหลือประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งแม้จะลดลงมาก แต่ยังเป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟที่ต่อไป จนกว่าจะชำระภาระค่าเชื้อเพลิงคงค้างทั้งหมด


