xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเข้มควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ห่วง 4 ปี คนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าพุ่ง 11.44 เท่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเปิดเทอม รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการสั่งการเข้มงวดควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา โดยกำหนดให้สถานศึกษาเป็นเขตปลอดบุหรี่ไฟฟ้า และห้ามบุคลากร ทุกคนเกี่ยวข้องกับการสูบ จำหน่าย หรือครอบครอง รวมถึงกำหนดโทษทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องหากพบการฝ่าฝืน ทั้งนี้ จากข้อมูลพบว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุด ปี 2567 พบคนไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงขึ้น 11.44 เท่า จากปี 2564 ที่มีผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้า 78,742 คน เพิ่มเป็น 900,459 คน ในปี 2567 เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 15-24 ปี มากถึง 251,625 คน

นางสาวอัยรินทร์ กล่าวว่า ถึงแม้รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนให้ความสำคัญ บูรณาการทุกภาคส่วนเร่งป้องกันและปราบปราม รวมถึงจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่า 200 คดี คิดเป็นมูลค่าของกลางมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ยังมีการลักลอบจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอพพลิเคชันต่าง ๆ ในราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้เพียงปลายนิ้ว รวมถึงมีรูปลักษณ์เป็นตัวการ์ตูน สีสันสดใส ดึงดูดใจ มีกลิ่นและรสชาติหลากหลาย อีกทั้ง น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ยังมีสารแต่งกลิ่นและรสที่ช่วยกระตุ้นความพึงพอใจ เพิ่มโอกาสในการเสพติดมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังพบการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการผสมสารเอโทมีเดท (Etomidate) ยานำสลบที่ใช้ในทางการแพทย์ หรือที่รู้จักในชื่อ "บุหรี่ซอมบี้" ซึ่งการผสมสารดังกล่าว ทำให้ผู้สูบเกิดอาการหลอน มึนงง สับสน ไม่รู้สึกตัวและมีอันตรายร้ายแรงต่อชีวิต

“บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยอย่างที่หลายคนเข้าใจ ถึงแม้จะไม่มีควันจากการเผาไหม้เหมือนบุหรี่มวน แต่ไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าเต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายหลายชนิด โดยเฉพาะ นิโคติน (Nicotine) ซึ่งเป็นสารเสพติดที่ส่งผลต่อสมองโดยตรง ทำให้เกิดภาวะสมองติดยาเช่นเดียวกับผู้เสพเฮโรอีนหรือยาบ้า

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังฝากถึงผู้ปกครองให้เพิ่มการเฝ้าระวังบุตรหลานอย่างใกล้ชิด สังเกตพฤติกรรมที่อาจบ่งชี้ถึงการใช้บุหรี่ไฟฟ้า เช่น ใช้เงินมากขึ้นโดยไม่มีเหตุผล ง่วงซึม ซึมเศร้า หรือหงุดหงิดง่าย มีกลิ่นแปลก ๆ ติดตัว เก็บตัว ไม่เข้าสังคม หรือมีการเปลี่ยนกลุ่มเพื่อน พกของคล้ายปากกา แฟลชไดรฟ์ หรือของเล่นคล้ายตัวการ์ตูนยอดนิยม ทั้งนี้ หากประสบปัญหาเกี่ยวกับการเลิกบุหรี่ สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmnidat.go.th หรือสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.)