จากการสอบสวนคดีคนร้าย 4 คน ร่วมบุกปล้นอัญมณีล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ จำนวน 8 ชิ้น มูลค่า 88 ล้านยูโร ไปจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก กรุงปารีส เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจจะจับกุมคนร้ายได้ 2 ใน 4 คน นั้น
นางลอร์ เบคคูโอ พนักงานอัยการกรุงปารีส เปิดเผยว่า คนร้ายรายแรกเป็นชาวแอลจีเรีย วัย 34 ปี อาศัยอยู่ในเทศบาล โอแบร์วิลลิเยร์ ทางตอนเหนือของกรุงปารีสมาตั้งแต่ปี 2553 ถูกจับที่สนามบินชาร์ล เดอ โกล กรุงปารีส ขณะเตรียมนั่งเครื่องบินไปแอลจีเรีย โดยไม่มีตั๋วบินกลับ ส่วนอีกรายเป็นชาวมาลีอายุ 39 ปี ถูกจับที่บ้านพักในเทศบาล โอแบร์วิลลิเยร์ ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเตรียมเดินทางไปต่างประเทศ แต่ตำรวจพบว่า ดีเอ็นเอของคนร้ายรายนี้ ตรงกับหลักฐาน ดีเอ็นเอที่พบในพิพิธภัณฑ์ที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมเครื่องอัญมณีล้ำค่าที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 2 คนร้ายในข้อหาสมคบกันเพื่อก่ออาชญากรรม และร่วมกันปล้นทรัพย์ไปจากพิพิธภัณฑ์ ซึ่งคนร้าย 2 คนที่ถูกจับ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงในวันเกิดเหตุ และทั้งสองคนจะยังคงถูกควบคุมตัวในห้องขังต่อไประหว่างการสอบสวน โดยนางเบคคูโอ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับคำให้การของคนร้าย หวั่นเกรงว่าพวกของคนร้าย 2 คนที่หลบหนี อาจจะล่วงรู้ถึงแนวทางการสอบสวนของตำรวจ และจะมีผลเสียต่อรูปคดี
นางลอร์ เบคคูโอ พนักงานอัยการกรุงปารีส เปิดเผยว่า คนร้ายรายแรกเป็นชาวแอลจีเรีย วัย 34 ปี อาศัยอยู่ในเทศบาล โอแบร์วิลลิเยร์ ทางตอนเหนือของกรุงปารีสมาตั้งแต่ปี 2553 ถูกจับที่สนามบินชาร์ล เดอ โกล กรุงปารีส ขณะเตรียมนั่งเครื่องบินไปแอลจีเรีย โดยไม่มีตั๋วบินกลับ ส่วนอีกรายเป็นชาวมาลีอายุ 39 ปี ถูกจับที่บ้านพักในเทศบาล โอแบร์วิลลิเยร์ ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเตรียมเดินทางไปต่างประเทศ แต่ตำรวจพบว่า ดีเอ็นเอของคนร้ายรายนี้ ตรงกับหลักฐาน ดีเอ็นเอที่พบในพิพิธภัณฑ์ที่เกิดเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมเครื่องอัญมณีล้ำค่าที่หายไปจากพิพิธภัณฑ์ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุม
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา 2 คนร้ายในข้อหาสมคบกันเพื่อก่ออาชญากรรม และร่วมกันปล้นทรัพย์ไปจากพิพิธภัณฑ์ ซึ่งคนร้าย 2 คนที่ถูกจับ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริงในวันเกิดเหตุ และทั้งสองคนจะยังคงถูกควบคุมตัวในห้องขังต่อไประหว่างการสอบสวน โดยนางเบคคูโอ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับคำให้การของคนร้าย หวั่นเกรงว่าพวกของคนร้าย 2 คนที่หลบหนี อาจจะล่วงรู้ถึงแนวทางการสอบสวนของตำรวจ และจะมีผลเสียต่อรูปคดี


