วันนี้ (23 ก.ย.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เผยยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 16 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางในเขตพื้นที่จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 63 อำเภอ 372 ตำบล 2,077 หมู่บ้าน ขณะที่พื้นที่น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยายังติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด กำชับศูนย์ ปภ.เขต สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานว่า จากติดตามสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ พบว่ายังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในเขตภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลางในเขตพื้นที่จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา รวม 16 จังหวัด ได้แก่ ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครสวรรค์ ฉะเชิงเทรา เชียงใหม่ ขอนแก่น และมหาสารคาม จำนวนพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 63 อำเภอ 372 ตำบล 2,077 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 74,972 ครัวเรือน 251,382 คน และมีผู้เสียชีวิต 4 ราย (เพชรบูรณ์ 1 ราย พิจิตร 1 ราย และพระนครศรีอยุธยา 2 ราย)
สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าจากการปรับการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่เขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนครปฐม กินพื้นที่รวม 37 อำเภอ 279 ตำบล 1,556 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 56,205 ครัวเรือน 183,721 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี และเขต 16 ชัยนาท ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น รถปฏิบัติการพร้อมเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว เรือท้องแบน เรือเล็ก รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร และรถสุขาเคลื่อนที่ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี และเขต 16 ชัยนาท สนับสนุนการปฏิบัติงานของจังหวัดในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนเต็นท์ผู้ประสบภัย และชุดครอบครัว (Family Kit) ที่ประกอบด้วยสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีพยามฉุกเฉินให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในครั้งนี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องการแจ้งเตือนภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนภัยผ่าน Cell Broadcast ซึ่งเป็นช่องทางที่จะทำให้ประชาชนได้รับการแจ้งเตือนภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง หากได้รับข้อความแจ้งเตือน ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด หากได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง