นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า วันนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะทูตและกงสุลต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนไทย-ต่างประเทศ 20 สำนัก ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและตรวจสอบความเสียหายของพื้นที่พลเรือนจากเหตุการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา
คณะประกอบด้วย ทูตและผู้แทน รวม 36 คน จาก 33 ประเทศ 1 องค์กร และ 2 องค์การระหว่างประเทศ ได้แก่
- เอกอัครราชทูต 10 คน จาก 9 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ ฟิลิปปินส์, สหภาพยุโรป, เนเธอร์แลนด์, สเปน, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, อิตาลี, วาติกัน, ศรีลังกา และตุรกี
- อุปทูตรักษาการชั่วคราว 6 คน จาก นอร์เวย์, ฝรั่งเศล, สวิตเซอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฟินแลนด์ และโปรตุเกส
- ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต 17 คน จาก 16 ประเทศ และ 1 องค์กร ได้แก่ ออสเตรเลีย, เบลเยียม, บรูไนดารุสซาลาม, แคนาดา, จีน, สหภาพยุโรป, เยอรมนี, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, สปป.ลาว, มาเลเซีย, เมียนมา, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม และเปรู
- ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร 2 คน จากสาธารณรัฐเกาหลี และสวีเดน
- องค์การระหว่างประเทศ 2 คน จาก Golden West Humanitarian Foundation และ Norwegian People's Aid
โดยกำหนดการวันนี้ คณะจะเดินทางไปผามออีแดง เพื่อรับฟังบรรยายสรุป เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ภูมะเขือและศึกษาภูมิประเทศ และตรวจเยี่ยมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบริเวณบ้านหนองเม็ก ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ และรับฟังบรรยายสรุปที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา
การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้คณะทูตฯ และสื่อมวลชนได้เห็นการปฏิบัติงานของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมอย่างใกล้ชิด และเผยแพร่ข้อเท็จจริงที่ถูกต้องต่อประชาคมโลก ซึ่งเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการนำเสนอข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส และยึดมั่นในสันติวิธีและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งนำไปสู่การฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค