นายมงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า เหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา เสาและสายไฟฟ้าบางส่วนได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามายังไทย ส่งผลให้เกิดปัญหากระแสไฟฟ้าขัดข้อง ซึ่ง กฟภ. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าซ่อมบำรุงไปแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ ยังเหลืออีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่สามารถเข้าซ่อมได้ เนื่องจากต้องรอให้ฝ่ายความมั่นคง ตรวจสอบสถานการณ์และอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ กฟภ. เข้าซ่อมแซม เพื่อความปลอยภัยในชีวิต
ส่วนกรณีการขายไฟฟ้าให้กัมพูชานั้น กฟภ. ยังมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ากับกัมพูชาอยู่ 9 จุด แต่ทางกัมพูชาได้ตัดการใช้ไฟฟ้าจากไทยทั้ง 9 จุดไปแล้ว ซึ่งในระบบของ กฟภ. ไม่พบการใช้ไฟฟ้าของกัมพูชาแต่อย่างใด และเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง กฟภ. ได้ทำหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสอบถามต่อไปยังสถานทูตกัมพูชาว่ายังจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าไทยอยู่หรือไม่ และหากทาง สมช. สรุปตอบกลับมายัง กฟภ. ว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว ทาง กฟภ. จะทำการยกเลิกสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของสัญญาอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางกัมพูชาไม่ได้ติดค้างค่าไฟฟ้ากับ กฟภ. แต่อย่างใด สำหรับไฟฟ้าที่เคยขายให้กัมพูชาประมาณ 50 เมกะวัตต์ ทาง กฟภ. จะหันไปจำหน่ายในพื้นที่ของประเทศไทยที่มีความต้องการแทน โดยยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการเลิกใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้
ส่วนกรณีการขายไฟฟ้าให้กัมพูชานั้น กฟภ. ยังมีสัญญาการซื้อขายไฟฟ้ากับกัมพูชาอยู่ 9 จุด แต่ทางกัมพูชาได้ตัดการใช้ไฟฟ้าจากไทยทั้ง 9 จุดไปแล้ว ซึ่งในระบบของ กฟภ. ไม่พบการใช้ไฟฟ้าของกัมพูชาแต่อย่างใด และเมื่อเร็วๆ นี้ ทาง กฟภ. ได้ทำหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อสอบถามต่อไปยังสถานทูตกัมพูชาว่ายังจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าไทยอยู่หรือไม่ และหากทาง สมช. สรุปตอบกลับมายัง กฟภ. ว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว ทาง กฟภ. จะทำการยกเลิกสัญญาการซื้อขายไฟฟ้า เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของสัญญาอย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ ปัจจุบันทางกัมพูชาไม่ได้ติดค้างค่าไฟฟ้ากับ กฟภ. แต่อย่างใด สำหรับไฟฟ้าที่เคยขายให้กัมพูชาประมาณ 50 เมกะวัตต์ ทาง กฟภ. จะหันไปจำหน่ายในพื้นที่ของประเทศไทยที่มีความต้องการแทน โดยยืนยันว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการเลิกใช้ไฟฟ้าในครั้งนี้