การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) (NARIT) ผลักดันการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 ในโครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 4 เผยลิสต์ 16 พื้นที่ดูดาวแห่งใหม่ทั่วประเทศ พร้อมมอบโล่เพื่อประกาศแก่พื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยเพื่อปลุกกระแสการเดินทางมิติใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวความสนใจพิเศษที่ต้องการเดินทางสัมผัสความงดงามของธรรมชาติยามค่ำคืน พิธีจัดขึ้น ณ ห้องประชุมจารุวัสตร์ ชั้น 10 อาคาร ททท.
นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า โครงการ “AMAZING DARK SKY IN THAILAND #Season 4” หรือ โครงการเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง ททท. และ สดร. ที่จัดขึ้นต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 4 เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การท่องเที่ยวในรูปแบบ Dark Sky Tourism กิจกรรมยอดนิยมในหมู่ผู้สนใจดาราศาสตร์ตลอดจนกลุ่มนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ ชื่นชอบการตั้งแคมป์ และกิจกรรมกลางแจ้ง โดย ททท. เล็งเห็นประโยชน์ของการต่อยอดประชาสัมพันธ์เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวคุณภาพดังกล่าว พร้อมยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวไทยสุดประทับใจ (Grand Moment) ให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางไปรับความสุขท่ามกลางธรรมชาติสัมผัสความสวยงามของท้องฟ้าประเทศไทย ตื่นตา ตื่นใจท้องฟ้าในยามค่ำคืน ณ สถานที่ดูดาวทั่วทุกภูมิภาค อีกทั้งยังสะท้อนศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวไทยที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวหลากหลาย ตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวอย่างครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์
ผศ.ดร.วิภู รุโจปการ รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติในฐานะหน่วยงานหลักด้านดาราศาสตร์ของประเทศไทย เป็นหน่วยงานหลักขับเคลื่อนโครงการ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย” รณรงค์ให้สังคมไทยตระหนักถึงผลกระทบจากมลภาวะทางแสง อนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้า และให้ความสำคัญในการประหยัดพลังงาน ปรับพฤติกรรมการใช้แสงไฟ และลดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ ผลพลอยได้ที่ชัดเจนคือ คืนความมืดของท้องฟ้า ที่จะช่วยในการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ และใช้ดาราศาสตร์มากระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการประกาศรายชื่อพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดของประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 48 พื้นที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศไทย และในปี 2568 ได้มีการขึ้นทะเบียนอีก 16 พื้นที่เพิ่มเติม โดยการเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดเป็นเครื่องการันตีศักยภาพในการเป็นแหล่งท่องเที่ยวดูดาวของประเทศไทย
นับเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเปิดมิติใหม่ให้กับการท่องเที่ยวไทย ด้วยเสน่ห์ของท้องฟ้ายามค่ำคืนและความงดงามของดวงดาว พร้อมจุดประกายให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์มากขึ้น ทั้งนี้ หวังว่าโครงการดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในฐานะแหล่งท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์และเป็นสถานที่ถ่ายภาพสำหรับกลุ่มนักดาราศาสตร์สมัครเล่น นอกจากนี้ ในอนาคต สดร. ยังตั้งเป้าผลักดันให้เกิดเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างเพื่อให้ดาราศาสตร์เป็นวิทยาศาสตร์ที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
สำหรับหน่วยงาน โรงแรม รีสอร์ท ชุมชน ศูนย์วิทยาศาสตร์ หรือพิพิธภัณฑ์ ทั่วประเทศที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยได้ที่ https://darksky.narit.or.th/ และสามารถดาวน์โหลดคู่มือท่องเที่ยวดูดาว รวมข้อมูลเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทยทุกแห่งได้ที่ https://bit.ly/3IFSJ7r?r=qr
ผลการขึ้นทะเบียนเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย ปี 2568 ภายใต้โครงการ AMAZING DARK SKY IN THAILAND Season 4 มีจำนวนทั้งสิ้น 16 แห่ง ดังนี้
อุทยานท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park)
1. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูสีฐาน จ. มุกดาหาร
2. อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จ. ศรีสะเกษ
3. อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย จ. เลย
4. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ. พิษณุโลก
5. อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จ. ลำพูน
เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล (Dark Sky Properties)
1. โกลเด้น คลิฟ บีช รีสอร์ท จ. ตราด
2. ดารกะ เชียงดาว จ. เชียงใหม่
3. ดารา ควิซีน ภูเก็ต จ. ภูเก็ต
4. บ้านไร่นายเขียว จ. ขอนแก่น
5. ฟาวน์เท่นทรีรีสอร์ท จ. นครราชสีมา
6. ภูพร้อมดาว ฟาร์มสเตย์ จ. ชัยภูมิ
7. วนธารา รีสอร์ท จ. พิษณุโลก
8. สวนป่าแม่ละเมา จ. ตาก
9. สวนแม่ฟ้าหลวง โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เชียงราย
เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง (Dark Sky Suburbs)
1. คชอาณาจักร จ.สุรินทร์
2. สวนวลัยรุกขเวช มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จ.มหาสารคราม