นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย จากการเหยียบกับระเบิดขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกตไปยังเนิน 481 ชายแดนไทย-กัมพูชา ใน จ.อุบลราชธานี ว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอให้ทหารไทยทุกคนที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ทราบว่า กองทัพบกดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคนอย่างดีที่สุด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดนั้น กองทัพบกกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือทุ่นระเบิดใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 วัน หรือภายในต้นสัปดาห์หน้า จะทราบผล ซึ่งหากพบว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ จะต้องดำเนินการประท้วงกัมพูชาในระดับทหาร ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องพิจารณาหลายประเด็น ทั้งอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีอยู่
อย่างไรก็ตาม หากพบเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อพันธกรณีของอนุสัญญาดังกล่าว และเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2543 ด้วย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการประท้วง รวมถึงดำเนินการต่างๆ ตามกรอบของอนุสัญญาออตตาวา และของเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2543 ต่อไป
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ ทราบว่า กองทัพบกดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บทุกคนอย่างดีที่สุด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดนั้น กองทัพบกกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือทุ่นระเบิดใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 วัน หรือภายในต้นสัปดาห์หน้า จะทราบผล ซึ่งหากพบว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ จะต้องดำเนินการประท้วงกัมพูชาในระดับทหาร ส่วนกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องพิจารณาหลายประเด็น ทั้งอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ซึ่งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีอยู่
อย่างไรก็ตาม หากพบเป็นทุ่นระเบิดใหม่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อพันธกรณีของอนุสัญญาดังกล่าว และเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก ไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2543 ด้วย ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการประท้วง รวมถึงดำเนินการต่างๆ ตามกรอบของอนุสัญญาออตตาวา และของเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2543 ต่อไป