นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ ว่า ทาง สว. ไม่ได้ใส่ใจหรือสงสัยกับหน้าตาว่าจะหล่อไม่หล่อ สวยไม่สวย ดีหรือไม่ดี เพราะเราถือว่าเป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งที่เราต้องใส่ใจคือการปล่อยคลิปเสียงนั้น ปล่อยมาเพื่ออะไร ซึ่งผลที่เกิดขึ้นจากการปล่อยคลิปคือรัฐมนตรีลาออก เริ่มเกิดความไม่มีเสถียรภาพในระบบการเมืองไทยแล้ว นี่คือสิ่งที่พญาละแวกสองต้องการใช่หรือไม่ อีกทั้งเริ่มมีการออกมาข่มขู่แล้วว่าหากใครเห็นต่างจะมีการสั่งเก็บ
นายอลงกต กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเราควรตัดความสัมพันธ์กับกัมพูชา และควรที่จะมีการปิดด่านถาวร ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้มีการสอบถามกับทางด้านกระทรวงการคลัง ระหว่างการส่งสินค้าไปที่ประเทศกัมพูชากับสินค้าที่ประเทศกัมพูชาส่งกลับมามายังประเทศไทย เห็นได้ชัดว่าของเราส่งไปมากกว่า โดยสิ่งที่เราส่งไปคือน้ำมัน กับเครื่องอุปโภคบริโภค แต่สิ่งที่เขาส่งมาคือพวกมันสำปะหลัง มูลค่าอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท แต่มูลค่าที่เราส่งไปอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท ถามว่าเราอยู่ได้หรือไม่ ขอยืนยันว่าเราอยู่ได้ และเราสามารถหาลูกค้าคนอื่นได้
นายอลงกต กล่าวต่อว่า การปิดด่านสามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง รวมถึงเป็นการยืนยันว่าเรามีศักดิ์ศรี มีเอกราชของเรา ทำไมเราต้องยอม แต่หากทางพญาละแวกสองยังมีปฏิกิริยาเช่นนี้ และยังดึงดันอยู่ ตนก็เห็นว่าให้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตได้เลย พร้อมย้ำว่าถ้าเราปิดด่าน เราอยู่ได้ แต่จะเป็นปัญหาของทางกัมพูชา ทั้งนี้ เพื่อความเป็นเอกราช ความเป็นอธิปไตยสำคัญกว่าอย่างอื่น ฉะนั้นในเรื่องของการปรับ ครม. ไม่ใช่สาระสำคัญที่ สว. จะไปเกี่ยวข้องหรือมีข้อกังวลเพราะเขาเป็นฝ่ายบริหาร เราให้เกียรติกับฝ่ายบริหาร
นายอลงกต กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาชายแดนจะแก้ได้หรือไม่ อยู่ที่ผู้นำจะสั่ง ทางด้านรัฐมนตรีเป็นรอง ส่วนตัวละครสำคัญที่จะแก้ปัญหาในขณะนี้ คือแม่ทัพภาคที่ 2 ขณะที่การจัดการในพื้นที่ตะเข็บชายแดนคือกระทรวงมหาดไทย ซึ่งต้องรอดูบทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนต่อไปว่าสามารถที่จะรับลูกดำเนินการคู่ขนานกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้หรือไม่
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ซึ่งนโยบายต่างประเทศก็เป็นสิ่งที่เราต้องกังวลกัน ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นก็ไม่ใช่สาระสำคัญแล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร
เมื่อถามถึงการรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีต่อคลิปเสียงสนทนาที่หลุดออกมา ซึ่งไม่ได้มีการลาออกแต่ยังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลต่อ จะส่งผลให้กระแสสังคมที่เกิดความไม่พอใจ เช่น กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ที่มีการนัดชุมนุม 28 มิถุนายนนี้ นายอลงกต กล่าวว่า เป็นเรื่องของสังคม แต่ในส่วนของ สว. เราได้มีการลงชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีแล้ว อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยออกมาอย่างไร