xs
xsm
sm
md
lg

แอ่วเหนือที่แตกต่าง “ลำปาง-เชียงใหม่” ตามรอย “สมเด็จพระพันปีหลวง” ในโครงการ “รอยยิ้มของแผ่นดิน”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ปิ่น บุตรี


สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
จากเหตุการณ์ครั้งหนึ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานสัมภาษณ์แก่สื่อต่างประเทศ ซึ่งมีผู้ถามว่า “เหตุใดพระมหากษัตริย์ไทยจึงไม่ค่อยยิ้ม”

พระองค์จึงทรงผายพระหัตถ์ไปทางสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และตรัสด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยนว่า “She is my smile.” นั่นคือ “รอยยิ้มของฉัน”


นายนิธี สีแพร
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ถ้อยคำอันทรงคุณค่านี้สะท้อนถึงพระเมตตาและความผูกพันอันลึกซึ้งระหว่างทั้งสองพระองค์ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ใด จะทรงเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม พระพักตร์สดใส คลายทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร

จากรอยยิ้มของแม่ของแผ่นดินสู่โครงการรอยยิ้มของแผ่นดิน


จากคำตรัส “รอยยิ้มของฉัน” ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจอันนำมาสู่โครงการ “รอยยิ้มของแผ่นดิน” (Smile of the Land : Great Smile Grand Moment) ที่ทางททท. จัดขึ้นเพื่อถ่ายทอดพระเกียรติคุณอันทรงคุณค่าและพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระพันปีหลวง โดยมุ่งเผยแพร่พระราชปณิธานในการอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และส่งเสริมชุมชน เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ร่วมซาบซึ้งในพระเมตตา และภาคภูมิใจในมรดกแห่งรอยยิ้มอันงดงาม ทั้งจากผืนป่า ภูเขา และหัวใจของผู้คนใต้ร่มพระบารมี

กุหลาบควีนสิริกิติ์ แห่งสวนกุหลาบหลวง
สำหรับช่วงแรกของโครงการรอยยิ้มของแผ่นดิน ททท. ได้นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยสมเด็จพระพันปีหลวง ชวนสัมผัสมนต์เมืองเหนือที่แตกต่างในเส้นทาง “ลำปาง-เชียงใหม่” กับ 4 จุดไฮไลต์ใต้พระบารมี ได้แก่

โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ


“โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หรือ “ศูนย์ศิลปาชีพบ้านแม่ต๋ำ” ตั้งอยู่ที่ ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ก่อตั้งขึ้นหลังสมเด็จพระพันปีหลวง เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรบริเวณนี้ครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2527 (และเสด็จมาอีกหลายครั้ง)

โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำ (ภาพ : ททท.)
พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง “โครงการศิลปาชีพพิเศษ” ขึ้นเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ไม่มีที่ทำกินให้มีอาชีพมีรายได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รวมถึงเพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่า พร้อมช่วยกันอนุรักษ์ผืนป่าและระบบนิเวศให้ดำรงคงอยู่อย่างยั่งยืน

โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำฯ ลำปาง(ภาพ : โครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำฯ)
ปัจจุบันโครงการพัฒนาบ้านแม่ต๋ำฯ ดำเนินงานใน 4 แผนงานหลัก ๆ ได้แก่ งานอำนวยการและประสานงาน, งานโครงการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า, งานโครงการฟาร์มตัวอย่าง และงานศิลปาชีพที่ถือเป็นจุดเด่นของที่นี่ ได้แก่ งานเครื่องปั้นดินเผา แกะสลักไม้ จักสาน และทอผ้าที่มีทั้งผ่าไหมและผ้าฝ้าย

เมื่อผลิตชิ้นงานต่าง ๆ เสร็จแล้ว ทางศูนย์ฯก็จะออกจำหน่ายในราคาย่อมเยา ถือเป็นรายได้เสริมที่ช่วยให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่น้อยเลย


สถาบันคชบาลแห่งชาติ

การแสดงช้าง
สมเด็จพระพันปีหลวง ทรงสนพระราชหฤทัยในเรื่องช้างเป็นอย่างยิ่ง พระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับช้างอีกหลากหลาย โดยเฉพาะที่ “สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ” สมเด็จพระพันปีหลวงเคยเสด็จมาที่นี่เพื่อสนับสนุนกิจการด้านการอนุรักษ์ช้างของศูนย์ฯ อยู่หลายครั้งด้วยกัน

“สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ” หรือ “ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย” ตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเกวียน ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง ที่นี่เริ่มต้นจากการเป็นศูนย์ฝึกลูกช้างแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ.2512 เพื่อฝึกให้ช้างเชื่อฟังคำสั่งและมีความชำนาญในการทำไม้

จากนั้นศูนย์แห่งนี้ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรพลาดของผู้ที่ไปแอ่วจังหวัดลำปาง

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยเปิดให้ผู้สนใจแอ่วได้ทุกวัน...เที่ยวได้ทั้งปี โดยมีไฮไลต์คือ “การแสดงช้าง” วันละ 2 รอบ (11.00 น. และ 13.30 น.) ซึ่งเหล่าบรรดาช้างแสนรู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี จะออกมาโชว์ความสามารถอันน่าทึ่งต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน ไม่ว่าจะเป็น การสาธิตการทำไม้ลากซุง การเรียงไม้ซุง เก็บของให้ควาญ เล่นแชร์บอล และโชว์ช้างวาดรูป ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถซื้อภาพจากจิตรกรช้างกลับไปเป็นของที่ระลึกได้

กิจกรรมช้างอาบน้ำ
ขณะที่เวลา 10.45 และ 13.15 ก่อนการแสดงช้างจะเริ่มขึ้น 15 นาที ยังมีกิจกรรม “ช้างอาบน้ำ” เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ โดยควาญจะพาช้างมายังโรงให้อาหาร เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวซื้ออาหารป้อนช้างกันได้อย่างใกล้ชิด

จากนั้นควาญจะพาช้างเดินลงไปอาบน้ำในสระใหญ่อย่างพร้อมเพียงกัน โดยควาญจะทำความสะอาด ล้างเนื้อล้างตัว ขัดสีฉวีวรรณให้ ขณะที่ช้างก็จะใช้งวงดูดน้ำขึ้นมาพ่นล้างตัว หรือพ่นน้ำเล่น รวมถึงดำผุดดำว่ายเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน

ถือเป็นภาพวิถีช้างไทย ที่ควาญและช้างผูกพันเป็นครอบครัวเดียวกัน สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี

สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
“สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์” ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นสวนพฤกษ์ศาสตร์สากลแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระพันปีหลวง ดำเนินการจัดสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2536

สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ มี 2 จุดไฮไลต์สำคัญ คือ “กลุ่มอาคารเรือนกระจกเฉลิมพระเกียรติ” เป็นกลุ่มอาคารเรือนกระจกใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ภายในแบ่งเป็นโรงเรือนกระจกหลายหลัง รวบรวมพรรณไม้ที่มีความโดดเด่น พรรณไม้หายากและใกล้สูญพันธุ์ จากหลากหลายระบบนิเวศ มาจัดแสดง อาทิ เรือนสับปะรดสี เรือนกล้วยไม้และเฟิน เรือนพืชกินแมลง เรือนพืชสมุนไพร เรือนพฤกษศาสตร์พื้นบ้าน และเรือนไม้ใบ

เรือนพืชทนแล้ง
นอกจากนี้ยังมี 2 โรงเรือนไฮไลต์ไม่ควรพลาด คือ “เรือนพืชทนแล้ง” ภายในจัดแสดงพืชอวบน้ำต่าง ๆ พืชสกุลศรนารายณ์ และไฮไลต์คือโซนกระบองเพชร ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปด้วยกระบองเพชรน้อยใหญ่สกุลต่าง ๆ หลากหลายรูปทรงจากทั่วโลกมาจัดแสดง

และ “เรือนป่าดิบชื้น” เป็นโรงเรือนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มอาคารเรือนกระจกฯ ภายในมีการจำลองบรรยากาศของป่าดิบชื้นเสมือนจริง มีการสร้างน้ำตกจำลอง และทางเดินยกระดับเพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินชมความสวยงามของเรือนยอดของต้นไม้ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ

เส้นทางศึกษาเรือนยอดไม้
ส่วนอีก 1 จุดไฮไลต์ของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ คือ “เส้นทางศึกษาเรือนยอดไม้” หรือ “Canopy Walk” เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติเหนือเรือนยอดไม้ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย มีระยะทางเดินไป-กลับกว่า 500 เมตร สร้างบนความสูงเหนือพื้นดินกว่า 20 เมตร

บนนี้ Canopy Walk นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมทัศนียภาพของทิวยอดไม้ในแบบพาโนราม่าได้อย่างสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ

ในสวนพฤกษศาสตร์ฯยังมี “เส้นทางตามรอยเสด็จพระราชดำเนิน” ซึ่งสมเด็จพระพันปีหลวงเคยเสด็จมาที่นี่หลายครั้งด้วยกัน นอกจากนี้ก็ยังมี ศูนย์สารนิเทศ,เส้นทางศึกษาธรรมชาติ,พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ และกิจกรรม “โรงเรียนนักเดินป่า” ที่ถือเป็นสีสันใหม่ของสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้

สวนกุหลาบหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง


สวนกุหลาบหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง
สวนกุหลาบหลวง ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ตั้งอยู่ในหย่อมบ้านห้วยผักไผ่ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เดิมที่นี่คือ “สวนกุหลาบห้วยผักไผ่” ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง

กระทั่งในปี พ.ศ.2534 สมเด็จพระพันปีหลวงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนกุหลาบแห่งนี้ใหม่ว่า “สวนกุหลาบหลวง” เพื่อให้เป็นพื้นที่วิจัย ทดสอบ สาธิต และเป็นแหล่งรวบรวม เพื่ออนุรักษ์พันธุ์กุหลาบที่มีอยู่ในเมืองไทย ในสภาพพื้นที่เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว ให้เป็นแหล่งเรียนรู้แก่เกษตรกร และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ

เมนูจากกุหลาบ
สวนกุหลาบหลวง มีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้งให้ผู้สนใจได้เดินถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน โดยที่นี่มีกุหลาบมากกว่า 180 สายพันธุ์ ทั้งกุหลาบสายพันธุ์ไทย และสายพันธุ์ต่างประเทศ ทั้งที่ออกดอกเป็นดอกเดี่ยว ๆ ซึ่งได้แก่กุหลาบดอกใหญ่ และกุหลาบดอกเล็ก และกุหลาบที่ออกดอกเป็นช่อ นำโดย กุหลาบควีนสิริกิติ์ กุหลาบเลื้อย กุหลาบหอม กุหลาบมอญ กุหลาบหนู กุหลาบพันธุ์มิดไนท์บลู บลูฟอร์ยู โอกลาโฮมา ดับเบิ้ลดีไลท์ เป็นต้น

นอกจากนี้ก็ยังมีโซนคาเฟ่เล็ก ๆ ให้บริการอาหารและเครื่องดื่มปลอดสาร ผลผลิตจากโครงการหลวง นำโดยทีเด็ด เมนูต่าง ๆ จากกุหลาบ อาทิ ชากุหลาบ ไอศกรีมกุหลาบ เค้ก-คุกกี้กุหลาบ รวมถึงเมนูชวนกินอื่น ๆ อีกหลากหลาย

และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ที่แตกต่างของ จังหวัดลำปาง-เชียงใหม่ ในทริปตัวอย่างของเส้นทางตามรอยสมเด็จพระพันปีหลวงจากโครงการ “รอยยิ้มของแผ่นดิน” กับสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจพระบารมี “แม่ของแผ่นดิน” ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น




กำลังโหลดความคิดเห็น