นับถอยหลัง 3 วันสุดท้ายสิ้นปี 2568! ตลาดคริปโตฯ หายใจไม่ทั่วท้อง นักวิเคราะห์กางตัวเลขชี้ชัด Bitcoin ต้องเร่งเครื่องทำราคาพุ่งขึ้นอีกกว่า 6.24% เพื่อยืนเหนือระดับ 93,374 ดอลลาร์ให้ได้ หากพลาดเป้า ปีนี้จะเป็นปีแรกในประวัติศาสตร์หลัง Halving ที่ปิดปีด้วย ‘แท่งเทียนสีแดง’ (ติดลบ) สวนทางคำทำนายต้นปีที่เคยมองไกลถึง 2.5 แสนดอลลาร์ ด้านปัจจัยมหภาคยังมืดมน เมื่อ ‘เจอโรม พาวเวลล์’ ส่งสัญญาณกั๊ก ดับฝันลดดอกเบี้ยเดือนมกราคม
ขณะที่ปฏิทินปีกำลังจะถูกฉีกออกหน้าสุดท้ายสถานการณ์ของ Bitcoin (BTC) เหรียญอันดับ 1 สินทรัพย์ดิจิทัล กลับตกอยู่ในที่นั่งลำบากที่สุดในรอบปี จากความหวังอันรุ่งโรจน์ในช่วงต้นปีที่นักวิเคราะห์ดาหน้าฟันธงว่าราคาจะทะยานไปแตะ 180,000 - 250,000 ดอลลาร์ แต่ความเป็นจริงกลับกลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อราคาปัจจุบันยังคงซึมลึกและเสี่ยงที่จะปิดปีด้วยผลตอบแทนที่ “ติดลบ”
ภารกิจกู้ชีพ 6.24% หนีตายจากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
Puckrin นักวิเคราะห์ตลาดชื่อดัง ออกมาเตือนด้วยข้อมูลที่น่าตกใจว่า “เหลือเวลาอีกเพียง 3 วันเท่านั้น” ที่ Bitcoin จะต้องกู้หน้าคืนมา หากต้องการปิดปีด้วยแท่งเทียนสีเขียว ราคาจะต้องดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือราคาเปิดของปีที่ระดับประมาณ 93,374 ดอลลาร์ ให้ได้ ซึ่งหมายความว่าต้องมีการแรลลี่ขึ้นอีกราว 6.24% ในช่วงเวลาอันสั้นนี้
หากทำไม่สำเร็จ ปี 2568 จะถูกจารึกว่าเป็นปีแรกหลังปรากฏการณ์ Halving ที่ Bitcoin ให้ผลตอบแทนติดลบ ซึ่งถือเป็นการทำลายสถิติเชิงบวกที่เคยมีมาตลอด และอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าวัฏจักร (Cycle) ของตลาดได้เปลี่ยนไปแล้ว
จากจุดสูงสุดสู่สามัญฝันค้างที่ 1.25 แสนดอลลาร์
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนตุลาคม Bitcoin เคยสร้างปรากฏการณ์ด้วยการทำ All-Time High (ATH) เหนือระดับ 125,000 ดอลลาร์ สร้างความฮึกเหิมให้นักลงทุนทั่วโลก แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ตลาดก็เผชิญกับแรงเทขายครั้งประวัติศาสตร์ (Historic Market Crash) ที่ฉุดราคาดิ่งลงกว่า 30% ลงมาสร้างฐานต่ำสุดแถว 80,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน
การปรับฐานรุนแรงครั้งนี้ ทำให้นักวิเคราะห์เสียงแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่านี่เป็นเพียงการพักตัวเพื่อไปต่อ แต่อีกฝ่ายเริ่มส่งเสียงเตือนว่า “กระทิงจบแล้ว” และเราอาจกำลังก้าวขาเข้าสู่ตลาดหมีรอบใหม่ (Bear Market) ยาวไปจนถึงปี 2569
ปัจจัยมหภาคกดดัน ‘เฟด’ ไม่ปรานีสินทรัพย์เสี่ยง
อีกหนึ่งปัจจัยที่กดหัวราคา Bitcoin ไว้อย่างหนัก คือท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แม้ปี 2568 จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงมาแล้ว 3 ครั้ง (ครั้งละ 0.25%) แต่ถ้อยแถลงล่าสุดของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคม กลับเต็มไปด้วยความคลุมเครือ
พาวเวลล์ระบุชัดเจนว่า “ไม่มีเส้นทางที่ไร้ความเสี่ยงสำหรับนโยบายการเงิน” ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณกลายๆ ว่า การลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอาจไม่ใช่สิ่งที่การันตีได้ โดยเฉพาะในการประชุมเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
ข้อมูลจาก CME FedWatch Tool ตอกย้ำความกังวลนี้ โดยระบุว่ามีนักลงทุนเพียง 18.8% เท่านั้นที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมกราคม ส่วนใหญ่มองว่าเฟดจะ “คงดอกเบี้ย” ซึ่งถือเป็นข่าวร้ายสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-on Assets) อย่างคริปโทเคอร์เรนซี ที่มักจะเติบโตได้ดีในสภาวะที่มีสภาพคล่องใหม่ๆ อัดฉีดเข้ามา
สัญญาณเทคนิคอันตรายหลุดเส้นตาย 365 วัน
ในเชิงเทคนิค อาการของ Bitcoin ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากราคาได้ร่วงลงมาซื้อขายต่ำกว่า เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 365 วัน (365-day Moving Average) มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือเป็นการหลุดแนวรับเชิงโครงสร้างที่สำคัญ (Structural Uptrend) ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2566 หากไม่สามารถดึงกลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นนี้ได้โดยเร็ว ความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและรายย่อยอาจพังทลายลง และเปิดทางให้ราคาไหลลงลึกกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม 3 วันสุดท้ายของปีนี้ จึงไม่ใช่แค่การนับถอยหลังสู่ปีใหม่ แต่เป็นการเดิมพันครั้งสำคัญว่า Bitcoin จะรักษา "มนต์ขลัง" ของปีหลัง Halving ไว้ได้หรือไม่ หรือจะต้องยอมจำนนต่อความเป็นจริงทางเศรษฐกิจที่โหดร้าย


