xs
xsm
sm
md
lg

"รัสเซีย" เปิดให้ตลาดหุ้นเทรดคริปโตปี 2569 จ่อขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งยุโรป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หมีขาวตื่นแล้ว! สองตลาดหลักทรัพย์หลักแห่งรัสเซีย ‘Moscow Exchange’ และ ‘St. Petersburg Exchange’ ประกาศความพร้อมเต็มสูบ เตรียมเปิดกระดานเทรดคริปโทเคอร์เรนซีอย่างเป็นทางการกลางปี 2569 รับลูกแบงก์ชาติรัสเซียที่ยอมถอยก้าวสำคัญ กำหนดเส้นตายคลอดกฎหมายแม่บทภายใน 1 ก.ค. 26 หวังดึงเม็ดเงินใต้ดินขึ้นบนบก หลังปริมาณธุรกรรมพุ่งทะลุ 3.7 แสนล้านดอลลาร์ แซงหน้าอังกฤษขึ้นแท่นเบอร์ 1 ยุโรป

จากจุดยืนที่เคยแข็งกร้าวในการ “แบน” ทุกวิถีทาง วันนี้รัสเซียจำต้องปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อแรงกดดันจากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกและสภาพเศรษฐกิจบีบบังคับ ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์มอสโก (Moscow Exchange) และ ตลาดหลักทรัพย์เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก (St. Petersburg Exchange) ได้ออกมายืนยันความพร้อมทางเทคนิคแล้วว่า สามารถรองรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทันทีที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ในช่วงกลางปี 2569

กฎเหล็กแบ่งชนชั้นรายย่อยเทรดได้แค่ 3 แสน

ภายใต้กรอบแนวคิดด้านกฎระเบียบที่ธนาคารกลางรัสเซียเพิ่งเผยแพร่เมื่อ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้กำหนดเส้นตายวันที่ 1 กรกฎาคม 2569 เป็นวันดีเดย์ของกฎหมายฉบับสมบูรณ์ โดยมีการแบ่งแยกกลุ่มนักลงทุนอย่างชัดเจน

- นักลงทุนรายย่อย (Non-qualified Investors) : จะถูกจำกัดสิทธิอย่างเข้มงวด ต้องผ่านการทดสอบความรู้ และซื้อได้เฉพาะเหรียญที่มีสภาพคล่องสูงตามรายชื่อที่กำหนด โดยมีเพดานวงเงินจำกัดที่ 300,000 รูเบิลต่อปี (ประมาณ 1.3 แสนบาท) เท่านั้น

- นักลงทุนสถาบัน/รายใหญ่ (Qualified Investors) : สามารถเทรดได้แบบ “ไร้ลิมิต” (No volume restrictions) แต่มีข้อแม้สำคัญคือ “ห้ามซื้อเหรียญ Privacy Coin” หรือโทเคนอำพรางธุรกรรมโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการฟอกเงิน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยังคงยืนกรานเส้นตายสำคัญคือ “ห้ามใช้คริปโต ฯ ชำระค่าสินค้าและบริการในประเทศ” โดย อนาโตลี อัคซาคอฟ ประธานคณะกรรมาธิการตลาดการเงินแห่งสภาดูมา ย้ำชัดว่าคริปโตฯ จะเป็นได้แค่เครื่องมือการลงทุน (Investment Instruments) เท่านั้นเงินที่ใช้จับจ่ายต้องเป็น “รูเบิล” เพียงอย่างเดียว

ที่มา : Chainalysis
เหมืองขุดกู้ชาติดันเป็น ‘สินค้าส่งออก’

เบื้องหลังการกลับลำครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของอุตสาหกรรม “เหมืองขุด” (Mining) ที่เติบโตจนกลายเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ รัสเซียครองสัดส่วน Hashrate ถึง 16% ของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศวันละ 1 พันล้านรูเบิล

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเครมลินอย่าง มักซิม โอเรชคิน ถึงกับเสนอให้ตีตราการขุดคริปโตฯ เป็น “กิจกรรมการส่งออก” (Export Activity) เพราะเหรียญที่ขุดได้ถูกขายออกไปนำเงินตราต่างประเทศกลับเข้ามาช่วยพยุงค่าเงินรูเบิล แม้แต่ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เอลวิรา นาบิอุลลินา ที่เคยต่อต้านหัวชนฝา ยังต้องยอมรับว่าการขุดมีส่วนช่วยให้เงินรูเบิลแข็งค่าขึ้นจริง

ครองแชมป์ยุโรป แซงอังกฤษขาดลอย

ข้อมูลจาก Chainalysis เผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า รัสเซียได้ก้าวขึ้นเป็นตลาดคริปโตฯ ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปแล้ว ด้วยยอดธุรกรรมกว่า 376.3 พันล้านดอลลาร์ (ก.ค. 67 - มิ.ย. 68) แซงหน้าสหราชอาณาจักรแบบไม่เห็นฝุ่น โดยเฉพาะธุรกรรมขนาดใหญ่ (เกิน 10 ล้านดอลลาร์) ที่พุ่งขึ้นถึง 86% สะท้อนว่ากลุ่มทุนใหญ่กำลังใช้คริปโตฯ เป็นทางรอดหลักในการเคลื่อนย้ายเงินทุน

นอกจากนี้ แบงก์ใหญ่อย่าง Sberbank ก็ไม่รอช้า กระโดดเข้าสู่สมรภูมิด้วยการออกพันธบัตรและสินทรัพย์ทางการเงินดิจิทัล (DFA) ที่ผูกกับราคา Bitcoin และ Ethereum มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านรูเบิล เป็นการนำร่องก่อนที่กฎหมายจริงจะบังคับใช้

ทั้งนี้ตั้งแต่กลางปี 2569 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่รัสเซียจะเปลี่ยนสถานะจาก “ตลาดมืด” สู่ “ตลาดที่มีการกำกับดูแล” อย่างเต็มรูปแบบ การยอมรับความจริงทางเศรษฐกิจครั้งนี้ คือทางออกเดียวที่จะช่วยให้รัสเซียยังคงเชื่อมต่อกับโลกการเงินได้ ภายใต้กำแพงคว่ำบาตรที่สูงตระหง่าน