ยักษ์ใหญ่โลกเพย์เมนต์ ‘Visa’ ขยับตัวครั้งประวัติศาสตร์! ประกาศคิกออฟระบบชำระดุล (Settlement) ด้วย ‘Stablecoin’ ในสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ ประเดิมจับมือ ‘Circle’ ใช้เหรียญ USDC วิ่งบนบล็อกเชนความเร็วสูง ‘Solana’ หวังฉีกกฎการเงินดั้งเดิม ทลายข้อจำกัด “5 วันทำการ” สู่ระบบเคลียร์เงินแบบ “ทุกวัน” (7-day settlement) ที่ธนาคารและฟินเทคต้องการ
วงการการเงินดั้งเดิม (TradFi) และโลกสินทรัพย์ดิจิทัล (DeFi) กำลังถูกเชื่อมต่อเข้าหากันอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อ Visa ผู้นำด้านการชำระเงินระดับโลก ตัดสินใจเดินหน้าโครงการนำร่องครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดให้พันธมิตรทั้งฝั่งผู้ออกบัตร (Issuer) และฝั่งผู้รับบัตร (Acquirer) ในสหรัฐอเมริกา สามารถทำรายการชำระดุลระหว่างกันได้ผ่านบล็อกเชน โดยเลือกใช้ Solana เป็นทางด่วนพิเศษ และใช้ USDC ของค่าย Circle เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่า
ฉีกตำราเก่า ปิดจุดตาย ‘วันหยุดธนาคาร’
หัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือการแก้ Pain Point ระดับชาติของระบบการเงินยุคเก่า ที่ติดกับดักเรื่อง “วันและเวลาทำการ” (Business Days)
ระบบ Settlement Framework ใหม่ของ Visa ถูกออกแบบมาให้รองรับการทำงานแบบ 7 วันตลอดสัปดาห์ ช่วยให้ธนาคารและฟินเทคสามารถปิดบัญชีและบริหารจัดการสภาพคล่อง (Liquidity) ได้ทุกวัน ไม่ต้องรอ “เงินจม” หรือรอเคลียร์ยอดข้ามวันหยุดสุดสัปดาห์อีกต่อไป ซึ่งถือเป็นการยกระดับงานบริหารเงินสด (Treasury Management) ให้เป็นระบบอัตโนมัติและทันสมัยที่สุด
ธนาคารเอาจริง! ไม่ใช่แค่กระแส
รูเบล เบอร์วัดเกอร์ (Rubail Birwadker) หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์การเติบโตระดับโลกของ Visa กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า การขยายบริการ Stablecoin Settlement ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การลองผิดลองถูก แต่มาจากความต้องการที่แท้จริงของตลาด
“พันธมิตรธนาคารของเราไม่ได้แค่ ‘ถามถึง’ เรื่องนี้ แต่พวกเขากำลัง ‘เตรียมพร้อม’ ที่จะใช้งานมันจริงๆ สถาบันการเงินกำลังมองหาทางเลือกการชำระดุลที่รวดเร็ว ตั้งโปรแกรมได้ (Programmable) และเชื่อมต่อกับระบบบริหารเงินสดที่มีอยู่ได้อย่างไร้รอยต่อ”
การนำ USDC มาใช้บนเครือข่ายของ Visa ในสหรัฐฯ จึงเป็นการส่งมอบความสามารถระดับ “Bank-ready” ที่ผสมผสานประสิทธิภาพเข้ากับมาตรฐานความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (Compliance) ที่เข้มงวดของ Visa
‘Cross River - Lead Bank’ ตัดริบบิ้นนำร่อง
สำหรับพันธมิตรกลุ่มแรกที่กระโดดเข้าร่วมขบวนปฏิวัติการเงินครั้งนี้ ได้แก่ Cross River Bank และ Lead Bank สองธนาคารที่ขึ้นชื่อเรื่องความไวในการปรับตัวสู่นวัตกรรม สะท้อนให้เห็นว่าภาคธนาคารพาณิชย์พร้อมแล้วที่จะรับลูกเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินหลักของประเทศ


