ผู้ก่อตั้ง Strategy สยบกระแสลบกลางตลาดผันผวน ย้ำยังคงเดินหน้าเก็บบิตคอยน์เต็มสูบ ขณะความปั่นป่วนบนเชนจุดชนวนแรงเทขาย - ดันหุ้น MSTR ร่วงทำจุดต่ำสุดรอบปี
ไมเคิล เซย์เลอร์ (Michael Saylor) ประธานบริหารของ Strategy เดินหน้าปิดเกมข่าวลือสะเทือนตลาด หลังมีรายงานผิดพลาดอ้างว่า Strategy ได้ขายบิทคอยน์กว่า 47,000 BTC ระหว่างช่วงตลาดดิ่งลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมประกาศชัดว่ายังคงเข้าซื้อเพิ่ม และเตรียมเปิดเผยดีลใหม่ที่ "เตรียมพบเซอร์ไพรซ์" ในวันจันทร์หน้า
กระแสข่าวดังกล่าวปะทุขึ้นหลังแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล Arkham ระบุว่าถือครอง BTC ของ Strategy ลดลงจาก 484,000 BTC เหลือเพียง 437,000 BTC จุดชนวนความตื่นตระหนกกลางภาวะตลาดร่วงอย่างรวดเร็ว บิทคอยน์ร่วงจากเหนือ 100,000 ดอลลาร์ ลงใต้ระดับ 95,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เซย์เลอร์สั่งดับข่าวทันทีผ่านโพสต์บน X ว่า “ไม่เป็นความจริง” และเน้นย้ำว่าไม่มีการขายแม้แต่เหรียญเดียว ขณะที่ให้สัมภาษณ์ CNBC ว่า Strategy ไม่เพียงแต่ไม่ขาย แต่ยัง "เร่งซื้อ" เพิ่มตลอดสัปดาห์ โดยเขาระบุว่า “จะรายงานการซื้อชุดต่อไปในเช้าวันจันทร์”
ข้อมูลภายในของ Strategy สนับสนุนคำกล่าวดังกล่าว โดยแดชบอร์ดการถือครองแสดงยอดรวม 641,692 BTC สอดคล้องกับไฟลิ่งต่อ SEC ที่ยืนยันการสะสมอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน
ความเคลื่อนไหวบนเชนสร้างความปั่นป่วน "โอน 58,000 BTC" จุดอัลกอริทึมเทขายอัตโนมัติ
ความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นหลังมีการตรวจพบการย้ายเหรียญกว่า 58,000 BTC ของ Strategy ไปยังกระเป๋าใหม่ ซึ่งนักวิเคราะห์ออนเชนระบุภายหลังว่าเป็น "การปรับโครงสร้างการดูแลทรัพย์สิน" ไม่ใช่การขาย แต่ความเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ได้กระตุ้นบอตเทรดดิ้งและเร่งแรงเทขายในตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หุ้น MSTR ร่วงต่ำสุดรอบปี NAV หลุดพรีเมียมครั้งแรก สะท้อนความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง
แรงสั่นสะเทือนกระจายสู่ตลาดทุนทันที หุ้น MSTR ในตลาด Nasdaq ร่วงลงต่ำกว่า 200 ดอลลาร์ระหว่างการซื้อขายก่อนเปิดตลาด ต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ขณะที่มูลค่าบริษัทเทียบสินทรัพย์สุทธิ (NAV Multiple) หลุดระดับ 1 เป็นครั้งแรก ซึ่งบ่งชี้ว่า นักลงทุนประเมินมูลค่า MSTR ต่ำกว่ามูลค่าบิทคอยน์ที่ถือไว้
สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง โดยตามรายงานของ K33 Research พรีเมียมของ MSTR หดตัวลงแล้วกว่า 79.2 พันล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ปลายปี 2567 แม้บริษัทจะระดมทุนผ่านการออกหุ้นได้มากกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ แต่มีความต้องการ BTC ที่คาดการณ์ไว้ราว 48 พันล้านดอลลาร์ซึ่งไม่เคยถูกเปลี่ยนเป็นการซื้อจริง
นักลงทุนบางส่วนมองว่า MSTR ไม่ได้ถูกใช้เป็นตัวแทนการลงทุนในบิตคอยน์อย่างตรงไปตรงมาเหมือนในอดีตอีกต่อไป ขณะที่ Willy Woo นักวิเคราะห์ชื่อดังย้ำว่า Strategy จะยังไม่ถูกบังคับให้ขายก่อนปี 2570 ตราบใดที่ราคาหุ้นยังยืนเหนือ 183.19 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสำคัญตามโครงสร้างหนี้ของบริษัท
ตลาดคริปโตสั่นคลอนจากหลายปัจจัย แม้ยังมีแรงซื้อสถาบันหนุน
การโต้เถียงเกี่ยวกับข้อมูลการถือครองของ Strategy เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะผันผวนกว้างในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดสหรัฐฯ โดยบิตคอยน์เคยดีดกลับเหนือ 106,000 ดอลลาร์หลังรัฐบาลสหรัฐยุติการชัตดาวน์นาน 43 วัน แต่แรงส่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวเลือนหายไปเมื่อความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในเดือนธันวาคมอ่อนกำลังลง
แม้แรงเหวี่ยงตลาดจะยังรุนแรง แต่ Strategy ยังคงเป็นผู้ถือครอง BTC รายใหญ่ที่สุดในภาคเอกชน แม้ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 75% เหลือราว 60% เมื่อบริษัทอื่นๆ ทยอยเพิ่ม BTC ในงบดุล
Strategy ยังยืนหยัด แต่ตลาดกำลังถามหาความเชื่อมั่นรอบใหม่
เหตุการณ์ข่าวลือขาย 47,000 BTC ครั้งนี้ทดสอบเสถียรภาพทั้งบริษัท Strategy และตลาดบิทคอยน์ในวงกว้าง แม้เซย์เลอร์จะปิดเกมด้วยความมั่นใจและยืนยันการซื้อเพิ่ม แต่แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเผยให้เห็นถึงความเปราะบางของตลาดที่ตอบสนองต่อข้อมูลออนเชนอย่างไวเกินไป
ตลาดกำลังจับตาการประกาศซื้อครั้งใหม่ในวันจันทร์ ซึ่งอาจเป็นไพ่ใบสำคัญที่ชี้ว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะฟื้นหรือทรุดลงต่อในวัฏจักรบิทคอยน์รอบถัดไป


