การประกาศงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2568 ของบริษัท ฮานา ไมโครอิเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HANA สร้างความตื่นตระหนกให้นักลงทุน และเกิดการถล่มขายหุ้นครั้งใหญ่ตามมา จนราคาทรุดฮวบ ดิ่งลงหาจุดต่ำสุดเดิม
HANA แจ้งผลประกอบการไตรมาสที่ 3 หลังปิดการซื้อขายหุ้นวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท ลงลดจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 406 ล้านบาท หรือลดลง 96%
ส่วนผลประอบการงวด 9 เดือนแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 527.67 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,095.44 ล้านบาท
ราคาหุ้น HANA ดิ่งลงทันทีที่เปิดการซื้อขายในวันที่ 13 พฤศจิกายน ก่อนปิดลงที่ราคา 18.20 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือลดลง 12.08% มูลค่าซื้อขาย 810.84 ล้านบาท และลงต่อเนื่องในวันที่ 14 พฤศจิกายน โดยปิดที่ 18.10 บาท
ไม่มีใครคาดหมายว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของ HANA จะออกมาย่ำแย่ขนาดหนัก นักลงทุนที่ถือหุ้นไว้ จึงตั้งหลักหนีไม่ทัน และต้องขาดทุนกันป่นปี้เพียงชั่วข้ามคืน
ความพลิกผันของผลประกอบการหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอีเลคโทรนิคส์ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยบริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE ก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว โดยผลประกอบการบางไตรมาส ขาดทุนหนัก จนเกิดการทุบขายหุ้นตามมา
ราคาหุ้น HANA อยู่ในช่วงขาลงติดต่อมาหลายปี โดยในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาเคยพุ่งสูงสุดที่ 32.75 บาท และต่ำสุดที่ 14 บาท ซึ่งราคาปิดล่าสุด กำลังถอยลงไปใกล้จุดต่ำสุดเดิม
หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอีเลคโทรนิคส์ ได้รับอานิสงส์ จากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นแนสแด็กของสหรัฐที่มีผลประกอบการดีเยี่ยม และราคาหุ้นสร้างจุดสูงสุดใหม่กันเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะหุ้น NVIDIA
แต่เริ่มมีคำเตือนถึงภาวะฟองสบู่ของตลาดหุ้นสหรัฐ และหุ้นกลุ่ม TECH ในตลาดหุ้นแนสแด็ก เนื่องจากราคาหุ้นทะยานอย่างร้อนแรงเกินไป เกินกว่าปัจจัยพื้นฐานที่จะรองรับ หุ้นกลุ่ม TECH จึงเริ่มถูกเทขายลงมา
เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนอีเลคโทรนิคส์ในตลาดหุ้นไทย ซึ่งเริ่มไปต่อไม่ไหว รวมทั้งหุ้นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในตลาดหุ้นอย่างบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ซึ่งเริ่มปรับฐานลง
เพราะ DELTA มีค่า พี/อี เรโช ถึงเกือบ 140 เท่า ซึ่งถือว่าแพงมาก และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุน เพราะมีความเสี่ยงสูง แต่ราคาที่ยืนอยู่ได้ เกิดจากแรงซื้อของต่างชาติ ที่ใช้ DELTA เป็นเครื่องมือในการผลักดันดัชนี ฯ เพื่อผลในการทำกำไรจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้า SET 50
สถานการณ์หุ้นกลุ่มชินส่วนเริ่มไม่สดใส โดยอาจได้รับผลกระจากหุ้นกลุ่ม TECH ในตลาดหุ้นแนสแดกที่อาจปรับฐานลงมา ส่งผลลบเชิงจิตวิทยา ทำให้หุ้นกลุ่มชิ้ส่วนฯย่อตัวลงตาม นอกจากนั้น ผลประกอบการหุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ อาจมีความผกผันพลิกความคาดหมาย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับ HANA และเคยเกิดขึ้นกับหุ้น KCE
ขณะที่หุ้น DELTA ก็แพงเกินกว่านักลงทุนรายย่อยจะเข้าไปแตะ
หุ้นกลุ่มชิ้นส่วนฯ เสน่ห์จางหายลงไปทุกที โดยเฉพาะ HANA ซึ่งทำให้นักลงทุนต้องขวัญผวา เพราะไม่รู้ว่า ไตรมาสหน้าหรือไตรมาสที่ 4 ผลงานจะออกมาอย่างไร
หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ทำให้นักลงทุนจำนวนกว่า 3 หมื่นคนที่ติดหุ้น HANAไว้ หนีตายกนออกมาไม่ทัน


