“Propanc Biopharma” บริษัทยาชีวภาพจากออสเตรเลีย ประกาศจัดตั้งคลังสินทรัพย์ดิจิทัล (Crypto Treasury) หลังได้รับเงินทุนสูงสุด 100 ล้านดอลลาร์จาก Hexstone Capital เพื่อเร่งการพัฒนายารักษามะเร็งชนิดใหม่ และสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนอีกครั้ง ท่ามกลางกระแสเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลที่เริ่มหลอมรวมเข้ากับโลกวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์
Propanc Biopharma ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่เน้นการวิจัยพัฒนา “ยารักษามะเร็งจากเอนไซม์โปรเอนไซม์” ได้ประกาศว่า บริษัทได้รับเงินสนับสนุนสูงสุดถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Hexstone Capital กองทุนครอบครัวที่มุ่งลงทุนในโครงการสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อจัดตั้งคลังเงินคริปโต (crypto treasury) และสนับสนุนการพัฒนาโครงการรักษามะเร็งของบริษัทที่กำลังเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ในปีหน้า
ดีลนี้เป็นการลงทุนในรูปแบบหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ (convertible preferred stock) โดย Propanc จะได้รับเงินลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านดอลลาร์ และเงินทุนเพิ่มเติมอีก 99 ล้านดอลลาร์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้บริษัทมีเงินทุนเพียงพอในการขับเคลื่อนการทดลองยา PRP ซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่การทดลองกับมนุษย์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2569
James Nathanielsz ซีอีโอของ Propanc ระบุว่า การจัดตั้งคลังสินทรัพย์ดิจิทัลครั้งนี้ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงิน และเร่งพัฒนาเทคโนโลยีรักษามะเร็งด้วยกลไกโปรเอนไซม์ที่บริษัทเป็นเจ้าของ โดยกล่าวว่า
“เรามองเห็นโอกาสไม่เพียงแค่ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามจากก้อนเนื้อแข็ง แต่ยังรวมถึงโรคเรื้อรังอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลไกของการบำบัดด้วยเอนไซม์โปรเอนไซม์”
แม้บริษัทยังไม่เปิดเผยว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลใดบ้าง แต่ Hexstone ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายหลัก มีพอร์ตการลงทุนในคริปโตหลากหลาย ตั้งแต่ Bitcoin, Ether, Solana, Injective ไปจนถึงเหรียญทางเลือกขนาดเล็กอื่น ๆ
คลื่นใหม่ของ Biotech ที่หันมาใช้กลยุทธ์คริปโต
Propanc ถือเป็นหนึ่งในบริษัทไบโอเทคที่เริ่มนำแนวคิดการบริหารเงินทุนผ่านสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้ เช่นเดียวกับ Sonnet BioTherapeutics และ Sharps Technology ที่หันมาสร้าง crypto treasury เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและดึงความสนใจจากนักลงทุนยุคใหม่ที่มองหาการเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีชีวภาพและนวัตกรรมทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้กลับสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดทันที เมื่อราคาหุ้น PPCB ของ Propanc บนตลาด Nasdaq ร่วงลงกว่า 10.5% หลังจากประกาศข้อตกลง ตามข้อมูลจาก Yahoo Finance ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนบางส่วนที่ยังไม่มั่นใจในความเชื่อมโยงระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับอุตสาหกรรมยา
กลยุทธ์ Crypto Treasury ยังไม่สร้างผลตอบแทนที่ชัดเจน
กลยุทธ์การสร้างคลังสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคธุรกิจยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะในภาคองค์กรที่ถือ Bitcoin ไว้ในงบดุล ปัจจุบันหลายบริษัทเผชิญกับแรงกดดันจากความผันผวนของตลาดคริปโต
MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือบิทคอยน์มากที่สุดในโลก เคยมีมูลค่าตลาด (Market Cap) สูงถึง 122.1 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนกรกฎาคม แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 69.1 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลงกว่า 43% ขณะที่ Metaplanet บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นดาวรุ่งของปีนี้ ก็ทรุดตัวลงกว่า 55% นับตั้งแต่เดือนมิถุนายน และบางบริษัทที่ถือบิทคอยน์ในงบดุลถึงขั้นต้องขายสินทรัพย์ออกมาเพื่อนำเงินไปชำระหนี้
เมื่อโลกการแพทย์เริ่มเชื่อมกับโลกคริปโต
แม้ความเคลื่อนไหวของ Propanc จะถูกมองว่ายังเสี่ยงในสายตานักลงทุนแบบดั้งเดิม แต่ในอีกมิติหนึ่ง นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการบรรจบกันระหว่างโลกการแพทย์กับเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่จะเปิดประตูใหม่ให้กับการระดมทุนและบริหารความเสี่ยงทางการเงินในอุตสาหกรรมสุขภาพ โดยหาก Propanc สามารถบริหาร crypto treasury ได้อย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ พร้อมขับเคลื่อนการทดลองยา PRP ให้สำเร็จ บริษัทอาจสร้างต้นแบบให้กับวงการไบโอเทคทั่วโลกที่ต้องการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นแหล่งทุนทางเลือกในยุคที่ “ทุนดิจิทัล” กำลังกลายเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่.


