xs
xsm
sm
md
lg

ป่าช้าหุ้นไทย / สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดัชนีหุ้นดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ที่ระดับ 1300 จุด โดยไม่มีสัญญาณว่า จะเคลื่อนตัวในทิศทางใด ไม่ว่าขึ้นหรือลง นอกจากขยับขึ้นลงในกรอบแคบๆ ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายหุ้นที่เบาบางมาก และมีแนวโน้มว่า บรรยากาศการลงทุนที่ซบเซาจะเกิดขึ้นยาวนานจนถึงสิ้นปีนี้

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทบทุกคน โบรกเกอร์แทบทุกสำนัก ออกมาประสานเสียงในทำนองเดียวกันว่า ตลาดหุ้นตกอยู่ในสภาพที่เงียบมาก เงียบดุจป่าช้า มูลค่าการซื้อขายหุ้น ทรุดฮวบลงมาเหลือเพียงระดับ3 หมื่นล้านบาทต่อวัน ซึ่งไม่เพียงพอหล่อเลี้ยงบริษัทโบรกเกอร์จำนวน 34 บริษัทได้

เพราะมูลค่าการซื้อขาย 3 หมื่นล้านบาท ถ้าตัดมูลค่าการซื้อขายผ่านโปรแกรมการซื้อขาย หรือ ROBOT TRADING ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 40% ของมูลค่าการซื้อขายโดยรวมออก จะเหลือมูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนทั้งหมดเพียงวันละประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท เท่านั้น

ROBOT TRADING จ่ายค่าธรรมเนียมนายหน้าซื้อขายในอัตราที่ต่ำมาก จึงเหลือรายได้ค่านายหน้าซื้อขายที่เป็นเนื้อเป็นหนังประมาณ1.8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะมีโบรกเกอร์รายใหญ่เพียงไม่กี่รายที่อยู่ได้ ส่าวนโบรกเกอร์อีกประมาณ 30 ราย เจ๊งกันหมด

เช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อย ซึ่งบาดเจ็บหนักติดต่อกันเป็นปีที่ 3 เพราะหุ้นตกตลอด โดยเฉพาะปีนี้ รายย่อยแทบทุกคนอยู่ในอาการที่สาหัส แม้ว่าดัชนี ฯ จะติดลบประมาณ 100 จุด เมื่อเทียบกับจุดปิดสิ้นปี 2567 ที่ระดับ 1400.21 จุด และหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว สามารถทะยานสร้างราคาสูงสุดใหม่ได้

แต่หุ้นขนาดกลางขนาดเล็ก กลับไม่ฟื้น และปักหัวลงสู่ก้นเหว โดยนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ มีหุ้นขนาดเล็กสะสมอยู่เต็มพอร์ต และได้แต่รอคอยการกลับมาของหุ้นตัวเล็กอย่างสิ้นหวัง

นักลงทุนต่างชาติ เผ่นหนีจากตลาดหุ้นไทยย่างเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว เพราะมองไม่เห็นเสน่ห์ โดยโยกย้ายเงินออก และไปลงทุนในตลาดหุ้นอื่นที่มีอนาคตสดใสกว่า โดยไม่มีที่ท่าว่า จะกลับเข้ามาลงทุนใหม่ อย่างน้อยคงไม่ได้เห็นต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นอย่างมีนัยในปีนี้

ปี 2566 ต่างชาติขายหุ้นทิ้งประมาณ 1.47 แสนล้านบาท ปี 2567 ถล่มขายหุ้นอีก 1.92 แสนล้านบาท ส่วนปี 2568 จนสิ้นสุดวันที่ 11 พฤศจิกายน ต่างชาติเทขายหุ้นแล้ว 1.05 แสนล้านบาท

รวม 3 ปี ต่างชาติทุบขายหุ้น ขนเงินกลับประมาณ 4.4 แสนล้านบาทแล้ว และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หุ้นไทยโงหัวไม่ขึ้น

นักลงทุนรายย่อย กลายเป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่สุดในตลาดหุ้น ช้อนซื้อหุ้นสวนหมัดฝรั่งมาตลอด ผลลัพธ์ที่ออกมา สะบักสะบอมกันถ้วนหน้า ขาดทุนกันปี้ป่น

ระยะเวลาเดือนเศษที่เหลือของปี 2568 นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แทบทุกสำนักถอดใจกันแล้ว ลงความเห็นเหมือนกันว่า ตลาดหุ้นไทยคงไม่ไปไหนไกลแล้ว จุดปิดสิ้นปี อาจได้เจอกันที่ดัชนี ฯ ระดับ 1340 จุดเท่านั้น

เพราะขาดแคลนข่าวดีที่จะช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน ต่างชาติไม่กลับมา และตลาดหุ้นไม่ตอบรับข่าวดีจากการที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเขียวขจี

ตลาดหุ้นทั่วโลกปีนี้ส่วนใหญ่สดใส ดัชนี ฯ สร้างจุดสูงสุดใหม่กันเป็นแถว แต่ตลาดหุ้นไทยกลับถดถอย และอยู่ในอาการซึมกะทือ ซึ่งได้แต่หวังกันว่า สถานการณ์ในปีหน้าจะกระเตื้องขึ้น

ช่วงที่เหลือของปีนี้ นักลงทุนคงต้องปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไป โดยเว้นวรรคกิจกรรมในตลาดหุ้น ไม่ซื้อหุ้นเพิ่ม ไม่ท้าทายความเสี่ยง เลี่ยงการบาดเจ็บซ้ำเติม และนับถอยหลังสู่ปี 2569

พรุ่งนี้ อาจดีกว่าวันนี้ ปีหน้า ตลาดหุ้นอาจมีอนาคตที่สดใสกว่าปีนี้ รักษาลมหายใจไว้สู้กันใหม่ปี 2569 ดีกว่า








กำลังโหลดความคิดเห็น