xs
xsm
sm
md
lg

เจพีมอร์แกนชี้BTCน่าสนกว่าทองคำ คาด6-12เดือนราคาพุ่งแตะ$170,000

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทีมวิจัยเจพีมอร์แกนคาดภายใน 6-12 เดือน ราคาบิตคอยน์อาจไต่ขึ้นไปถึง 170,000 ดอลลาร์
ทีมวิจัยเจพีมอร์แกนชี้บิตคอยน์น่าสนใจมากกว่าทองคำหลังการชำระบัญชีครั้งใหญ่เมื่อเดือนที่แล้ว คาดราคาอาจแตะ 170,000 ดอลลาร์ภายใน 6-12 เดือน

ทีมวิจัยของเจพีมอร์แกนที่นำโดยกรรมการผู้จัดการ นิโคลอส พานิกิร์ตโซกลู เปิดเผยในรายงานที่ออกมาเมื่อวันพฤหัสฯ (6 พ.ย.) ซึ่งมาจากการเปรียบเทียบการลงทุนในบิตคอยน์กับการลงทุนในทองคำ โดยในวันดังกล่าวบิตคอยน์เทรดอยู่แถวๆ เกือบ 103,000 ดอลลาร์

ทีมวิจัยของวาณิชธนกิจชั้นนำของวอลล์สตรีทแห่งนี้คำนวณว่า มูลค่าตามราคาตลาดของบิตคอยน์ปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์นั้นต้องขึ้นไปอีก 67% จึงจะเทียบเท่ามูลค่าการลงทุนในทองคำของภาคเอกชนที่ราว 6.2 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อปรับตามความผันผวน

ทั้งนี้ ตลาดคริปโตปรับฐานลงเกือบ 20% จากระดับสูงสุด โดยตกแรงที่สุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่มีการชำระบัญชีในตลาด Perpetual Futures (สัญญาฟิวเจอร์สแบบถาวร) ซึ่งถือเป็นการชำระบัญชีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์คริปโต ตามด้วยการเทขายระลอกเล็กๆ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.

บีทีซีทำสถิติสูงสุดที่เหนือ 126,200 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 6 ต.ค.ก่อนถูกเทขาย

อัตราส่วนความผันผวนระหว่างบิตคอยน์กับทองคำขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 1.8 ซึ่งหมายความว่า บิตคอยน์ใช้เงินทุนเสี่ยงมากกว่าทองคำ 1.8 เท่า อัตราส่วนนี้ต่ำกว่าที่ทีมของพานิกิร์ตโซกลูใช้ในการวิเคราะห์ที่ 2.0 เท่า รายงานระบุว่า ราคาบิตคอยน์ปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าที่ยุติธรรมที่ปรับตามความผันผวนเมื่อเทียบกับทองคำของเจพีมอร์แกน 68,000 ดอลลาร์

ทีมวิจัยของเจพีมอร์แกนอธิบายการคำนวณนี้ว่า เป็นการคำนวณเชิงกลที่สะท้อนโอกาสขาขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของราคาบิตคอยน์ โดยคาดว่า ราคาจะขึ้นไปแตะ 170,000 ดอลลาร์ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า และเสริมว่า ความผันผวนที่เพิ่มขึ้นของทองคำทำให้บิตคอยน์น่าสนใจมากขึ้นในสายตานักลงทุนเมื่อพิจารณาในแง่การปรับความเสี่ยงต่อผลตอบแทน

ทีมวิจัยอธิบายเพิ่มเติมว่า ดูเหมือนการชำระบัญชีครั้งใหญ่ในตลาด Perpetual Futures ผ่านพ้นไปแล้ว นอกจากนั้นสัดส่วนอัตราดอกเบี้ยแบบเปิดของสัญญา Perpetual Futures ของบิตคอยน์ต่อมูลค่าตลาดรวมยังลดลงสู่ระดับปกติหลังจากพุ่งขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย และแนวโน้มคล้ายกันนี้ยังพบได้ในตลาดอีเธอเรียม

ในส่วนการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 3 พ.ย.นั้นเกิดจากการที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนถูกสั่นคลอนหลังแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายศูนย์ บาลานเซอร์ ถูกแฮ็กเสียหายกว่า 120 ล้านดอลลาร์ ซึ่งกระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของโปรโตคอล DeFi

ทีมวิจัยของเจพีมอร์แกนสรุปว่า โดยรวมแล้วเชื่อว่า สัญญา perpetual futures เป็นเครื่องมือการลงทุนที่ควรจับตามองมากที่สุดในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี จากสัญญาณการฟื้นตัวล่าสุดบ่งชี้ว่า การชำระบัญชีในตลาดสัญญา perpetual futures จบลงแล้ว

เล็งจับมือแบงก์อื่นพัฒนาสเตเบิลคอยน์
ขณะเดียวกัน ในงานอเมริกา บิสเนส ฟอรัมเมื่อวันพฤหัสฯ (6 พ.ย.) เจมี ไดมอน ซีอีโอเจพีมอร์แกน เชส ยอมรับว่า ตนเองไม่รู้ว่า อนาคตของสเตเบิลคอยน์จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ทางแบงก์เลือกที่จะศึกษาอย่างจริงจังและกำลังสร้างสเตเบิลคอยน์โดยอาจจับมือกับธนาคารอื่นๆ

ไดมอนที่ก่อนหน้านี้มักแสดงท่าทีไม่ไว้ใจบิตคอยน์เสริมว่า ตอนนี้เจพีมอร์แกนมีโทเคนเงินฝากที่สามารถชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์บนเครือข่ายบล็อกเชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มศักยภาพด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท
กำลังโหลดความคิดเห็น