แบงก์ชาติอินโดนีเซียมีแผนเปิดตัว “สเตเบิลคอยน์แห่งชาติ” ที่หนุนโดยพันธบัตรรัฐบาล ตอบรับกระแสการยอมรับภายในประเทศ ความเคลื่อนไหวนี้ยังมีเป้าหมายในการส่งเสริมบทบาทของเงินรูเปียห์ในระบบการเงินโลก
ตามรายงานของซีเอ็นบีซี อินโดนีเซีย เพอร์รี วาร์จิโย ผู้ว่าการแบงก์ อินโดนีเซีย กล่าวในงานอินโดนีเซีย ดิจิทัล แอนด์ อิโคโนมี เฟสติวัล แอนด์ ฟินเทค ซัมมิต 2025 ที่จัดขึ้นที่จาการ์ตาเมื่อวันพฤหัสฯ (30 ต.ค.) ว่า ธนาคารกลางจะออกหลักทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่หนุนโดยพันธบัตรรัฐบาลและถือเป็นสเตเบิลคอยน์แห่งชาติของอินโดนีเซีย แบบเดียวกับที่สเตเบิลคอยน์บางสกุลหนุนด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในอัตราส่วน 1:1
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หลักทรัพย์ดิจิทัลของแบงก์ อินโดนีเซียจะมีที่มาจากรูเปียห์ดิจิทัลและหนุนโดยพันธบัตรรัฐบาล
ทั้งนี้ แบงก์ชาติอินโดนีเซียเริ่มพัฒนารูเปียห์ดิจิทัลหรือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางมาตั้งแต่ต้นปี 2022 และปลายปีที่ผ่านมาได้เสร็จสิ้นเฟสแรก ซึ่งมีการดำเนินการกระบวนการพิสูจน์แนวคิด (Proof of Concept) สำหรับบัญชีแยกประเภทเงินรูเปียห์ดิจิทัล
ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีแผนรวมรูเปียห์ดิจิทัลเข้ากับระบบชำระเงินและโครงสร้างพื้นฐานตลาดการเงินปัจจุบันของประเทศ เพื่อรองรับการทำธุรกรรมทั้งภายในและระหว่างประเทศ
การพัฒนารูเปียห์ดิจิทัลควบคู่กับสเตเบิลคอยน์ที่หนุนโดยพันธบัตรรัฐบาลสอดคล้องกับกลยุทธ์หลัก 3 ประการของแบงก์ อินโดนีเซียคือ ขยายการยอมรับและนวัตกรรม เสริมสร้างโครงสร้างอุตสาหกรรม และรักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรม
การเปิดเผยของวาร์จิโยสะท้อนความมุ่งมั่นของแบงก์ชาติอินโดนีเซียในการพัฒนาโครงการสเตเบิลคอยน์เพื่อส่งเสริมบทบาทของรูเปียห์ในระบบการเงินโลก
ก่อนหน้านี้ สำนักงานบริการทางการเงินของอินโดนีเซีย (OJK) เผยว่า มีการใช้สเตเบิลคอยน์ในประเทศมากขึ้นหลังจากค่ารูเปียห์ทำสถิติต่ำสุดครั้งใหม่ที่ 16,850 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
แม้ยังไม่ได้รับการยอมรับในฐานะเครื่องมือการชำระเงินอย่างเป็นทางการในอินโดนีเซีย แต่ OJK ยอมรับว่า สเตเบิลคอยน์มีบทบาทสำคัญในแง่การใช้และปริมาณธุรกรรม รวมถึงการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสเตเบิลคอยน์ที่หนุนโดยสินทรัพย์อ้างอิงที่น่าเชื่อถือ และเสริมว่า สเตเบิลคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่แลกเปลี่ยนได้และผันผวนน้อยกว่าคริปโตอื่นๆ
อินโดนีเซียยังติดอันดับ 7 ในดัชนีการยอมรับคริปโตทั่วโลกประจำปี 2025 ของเชนนาไลซิส
นอกจากนั้น เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บิตคอยน์ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนบิตคอยน์ในแดนอิเหนา เผยว่า รัฐบาลกำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์สำรอง และตัวแทนของบิตคอยน์ อินโดนีเซียได้พบกับเจ้าหน้าที่เพื่อหารือว่า กลยุทธ์นี้จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างไร
ดิโน มิลาโน ซิเรการ์ หัวหน้าแผนกคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลของ OJK เผยว่า OJK ให้การรับรองว่า สเตเบิลคอยน์รวมอยู่ในระบบติดตามการแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ยังมีการกำกับดูแลเทรดเดอร์ทั้งหมด และกำหนดกฎระเบียบหลายอย่างที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมต้องปฏิบัติตาม ซึ่งรวมถึงการป้องกันการฟอกเงิน และการกำหนดให้เทรดเดอร์ต้องจัดทำรายงานส่งเป็นระยะ
การดำเนินการเหล่านี้บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซียกำลังเร่งไล่ตามประเทศอื่นๆ ที่แสดงความสนใจในการพัฒนาสเตเบิลคอยน์ที่หนุนด้วยสกุลเงินท้องถิ่นของตนเอง
ในเอเชียนั้นประเทศที่กำลังผลักดันการพัฒนาสเตเบิลคอยน์ที่ผูกกับสกุลเงินท้องถิ่นรวมถึงจีนและฮ่องกง ทั้งนี้ เพื่อแข่งขันกับดอลลาร์ที่ครอบงำตลาดสเตเบิลคอยน์อยู่ในปัจจุบัน
รายงานจากสภานิติบัญญัติฮ่องกงระบุว่า เขตปกครองพิเศษแห่งนี้กำลังขอการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนเพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการพัฒนาสเตเบิลคอยน์ที่หนุนด้วยเงินหยวน ขณะเดียวกัน ทั้งฮ่องกงและจีนต่างกำลังเร่งพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองคือ e-HKD และเงินหยวนดิจิทัลตามลำดับ


