ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นที่ปรับตัวลงอย่างน่าจับตาที่สุดคือ หุ้นบริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) หรือ TTCL เพราะเพียง 4 วันทำการ ราคาทรุดลงเกือบ 60% ครองแชมป์หุ้นที่ทรุดสูงสุดในช่วงนี้ โดยถูกปัจจัยลบหลายด้านรุมกระหน่ำ
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา หุ้น TTCL ปิดที่ 65 สตางค์ หลังจากนั้น ปักหัวลงรุนแรงและต่อเนื่อง จนล่าสุด วันพุธที่ 29 ตุลาคม ลงมาปิดที่ 30 สตางค์ ลดลงวันเดียวอีก 14 สตางค์ หรือลดลง 31.82% ทะลุเพดานต่ำสุด 30%
รวม 4 วันทำการ TTCL ปรับตัวลงจาก 65 สตางค์ เหลือ 30 สตางค์ ลดลง 35 สตางค์ หรือลดลง 58.33%
TTCL ดำเนินธุรกิจการออกแบบวิศวกรรม การจัดหาเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการก่อสร้างโรงงานแบบครบวงจร ในอุตสาหกรรมพลังงาน ปิโตรเคมี และเคมีภัณฑ์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ปี 2552 ราคาเคยพุ่งทะยานสูงสุดที่ประมาณ 51 บาท
แต่เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2561 บริษัท โตโย เอ็นจีเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ถือหุ้นใหญ่ของTTCL ได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในสัดส่วน 10% ออกทั้งหมด หอบเงินกลับญี่ปุ่น ซึ่งขณะนั้น ราคาหุ้นเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 15 บาท โดยหลังจากผู้ถือหุ้นใหญ่ญี่ปุ่นทิ้งหุ้นเกลี้ยง ราคาหุ้นปรับตัวลงต่อเนื่อง
ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น TTCL เคยพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 2.82 บาท ก่อนจะดิ่งลง จนสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ 30 สตางค์ และมีแนวโน้มว่า จะดิ่งลงต่อ เพราะมีหลายปัจจัยที่กดดัน
ผลประกอบการ TTCL กำลังทรุดหนัก โดยปี 2567 ขาดทุนสุทธิ 537.45 ล้านบาท งวด 6 เดือนแรกปี 2568 ขาดทุนสุทธิ 1,792.77 ล้านบาท และไตรมาสที่ 3 ซึ่งจะประกาศอีกไม่กี่วันข้างหน้า คาดว่าผลประกอบการอาจจะออกมาไม่ดี
นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ตลาดหลักทรัพย์ ยังสั่งขึ้นเครื่องหมาย ”CB” หุ้น TTCL เนื่องจากผิดนัดชำระหุ้นกู้ สะท้อนถึงปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการ
ตั้งแต่ปี 2561 เมื่อมีข่าวว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ญี่ปุ่น บริษัท โตโย เอ็นจีเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ประกาศขายทิ้งหุ้นทั้งหมด นักลงทุนบางส่วน ได้ตัดสินใจเทขายหุ้น TTCL ตามญี่ปุ่นทันที เพราะไม่มั่นใจในแนวโน้มการประกอบธุรกิจ หลังจากขาดหัวเรือใหญ่หรือขาดผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ
แต่นักลงทุนบางส่วน ไม่ยอมขายหุ้น เพราะทำใจตัดขาดทุนไม่ได้ และถือหุ้นไว้ ภายใต้ความคาดหวังว่า ธุรกิจยังเดินต่อไปได้ และผลประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ผิด เพราะยิ่งถือ ราคาหุ้นยิ่งปรับตัวลง จากขาดทุนน้อย จนวันนี้กลายเป็นขาดทุนหนัก และอาจขาดทุนถึงขั้นหมดตัว
เพราะฐานะทางการเงินของ TTCL กำลังย่ำแย่ ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ และผลประกอบการทรุดหนัก โดยไม่มีสัญญาณฟื้นตัว เช่นเดียวกับราคาหุ้น ที่กำลังดิ่งลงก้นเหวลึก
ราคาหุ้นที่ลงมาม้วนเดียวแรง ๆ 4 วันติด เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า TTCL ดูเหมือนกำลังเดินทางกลับบ้านเก่า ฐานะการดำเนินงานส่ออาการวิกฤต และผู้บริหารบริษัท ฯ ยังไม่มีใครออกมาสร้างความมั่นใจกับผู้ถือหุ้นว่า จะมีแผนการกอบกู้ฐานะของบริษัทอย่างไร
ผู้ถือหุ้นรายย่อย TTCL มีจำนวนทั้งสิ้น 7,020 ราย ซึ่งถือหุ้นต้นทุนสูงไว้ และทั้งหมดคงปลงกับสถานการณ์ราคาหุ้นที่อยู่ในสภาพรอวันตาย


