xs
xsm
sm
md
lg

"คนละครึ่งพลัส" วันแรกคึกคัก! รัฐบาลมั่นใจเงินสะพัดทั่วไทย 8.8 หมื่นลบ. ชาวบ้านขอต่อเฟส 2

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ เป็นวันแรกของการใช้สิทธิในโครงการ "คนละครึ่งพลัส" รัฐบาลเชิญชวนประชาชนที่ได้รับสิทธิ 20 ล้านคน ร่วมใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยรัฐบาลร่วมจ่าย 50% และประชาชนจ่ายเองอีก 50% สามารถใช้สิทธิได้ไม่เกินวันละ 200 บาท (รัฐบาลช่วยจ่ายสูงสุดวันละ 200 บาท) ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น. ของทุกวัน ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-31 ธ.ค.68

น.ส.อัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่สำรวจความพร้อมของร้านค้าชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ที่ตลาดนานาเจริญ, ตลาดเอ.ซี อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่าบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ประกอบการร้านค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และตื่นตัวต่อโครงการนี้เป็นอย่างมาก มีหลายรายเชื่อมั่นว่า โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขาย และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนได้จริง พร้อมขอให้รัฐบาลพิจารณาขยายโครงการต่อเนื่อง ไปยังเฟส 2 อีกด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าโครงการ "คนละครึ่งพลัส" จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 88,000 ล้านบาท และส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.21-0.22% ภายในปี 2568 สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับสิทธิในรอบนี้ สามารถรอการเปิดรับสมัครในเฟสที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะเปิดในเดือนม.ค.69 โดยผู้ที่พลาดสิทธิในรอบแรก จะได้รับสิทธิจองลำดับก่อน


ด้าน น.ส.ลลิดา เพริศวิวัฒนา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถเริ่มใช้สิทธิในโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น โดยรัฐบาลได้ขยายขอบเขตการใช้สิทธิให้ครอบคลุมถึงธุรกิจบริการรายย่อยที่อยู่ในระบบภาษีของรัฐ เพื่อให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กในชุมชนได้รับประโยชน์จากมาตรการอย่างแท้จริง

โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ครั้งนี้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านอาหาร หรือร้านค้าเท่านั้น แต่ประชาชนสามารถใช้สิทธิร่วมจ่ายได้กับ ร้านนวดแผนไทย ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านซักรีด ร้านล้างรถ ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านบริการในชีวิตประจำวันอื่น ๆ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยสามารถชำระเงินผ่านแอป G-Wallet ได้สะดวก และปลอดภัยเช่นเดียวกับร้านค้าทั่วไป

รองโฆษกรัฐบาล ระบุว่า มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางรัฐบาลในการ ยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและสร้างรายได้ให้ธุรกิจรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจชุมชน การขยายสิทธิให้ร้านบริการเข้าร่วม จะช่วยให้ประชาชนใช้สิทธิได้จริงในชีวิตประจำวัน ขณะเดียวกันยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับในส่วนร้านค้า เข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 620,000 ร้าน ทั้งนี้ กระทรวงการคลังยืนยันว่า จะไม่มีการส่งข้อมูลยอดขายให้กรมสรรพากรแต่อย่างใด ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการยังสามารถสมัครได้จนถึงวันที่ 19 ธ.ค. 2568


กำลังโหลดความคิดเห็น