IBM เดินหมากใหญ่ในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล เปิดตัวแพลตฟอร์ม “Digital Asset Haven” เพื่อยกระดับการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลของสถาบันการเงิน รัฐบาล และองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ผสานเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับธนาคาร พร้อมพันธมิตร “Dfns” ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัล มุ่งสร้างมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัย การกำกับดูแล และการบูรณาการสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับโลก
IBM เดินหน้าเปิดเกมรุกเต็มรูปแบบในสมรภูมิดิจิทัลไฟแนนซ์ ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม “IBM Digital Asset Haven” ที่ออกแบบมาเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักให้กับสถาบันการเงิน หน่วยงานรัฐ และองค์กรเอกชนที่ต้องการบริหารจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างปลอดภัยและเป็นระบบ
แพลตฟอร์มดังกล่าวพัฒนาร่วมกับ Dfns ผู้ให้บริการโครงสร้างกระเป๋าเงินดิจิทัลระดับสากล ซึ่งมีลูกค้ากว่า 250 รายทั่วโลก และสร้างกระเป๋าเงินแล้วกว่า 15 ล้านใบ โดย IBM ได้นำความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการยอมรับจากภาคการเงิน ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลขั้นสูงของ Dfns เพื่อสร้างระบบที่พร้อมรองรับการเติบโตของโลกสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคสถาบัน
เสริมเกราะความปลอดภัยระดับสถาบัน
IBM ระบุว่า Digital Asset Haven จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การกำกับดูแลและความปลอดภัยระดับสถาบัน โดยให้เครื่องมือสำหรับควบคุมที่อยู่ข้อมูล (residency control) ระบบอนุมัติหลายฝ่ายแบบโปรแกรมได้ (programmable multi-party approval) และกลไกกำกับดูแลตามนโยบายองค์กร (policy-based governance) ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างระบบการดำเนินงานสินทรัพย์ดิจิทัลที่สอดคล้องกับกฎระเบียบในแต่ละประเทศ
ทอม แม็คเพอร์สัน ผู้จัดการทั่วไปของ IBM Z และ LinuxONE กล่าวว่า “Digital Asset Haven จะเป็นประตูสู่ยุคใหม่ขององค์กรที่ต้องการขยับเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล โดยได้รับการสนับสนุนจากมาตรฐานความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในแบบ IBM”
บริหารธุรกรรมครบวงจร
แพลตฟอร์มดังกล่าวยังมาพร้อมระบบบริหารจัดการวงจรธุรกรรม (Transaction Lifecycle Management) ที่สามารถอัตโนมัติทุกขั้นตอนของกระบวนการบล็อกเชน ตั้งแต่การดำเนินการ ส่งต่อ ไปจนถึงการตรวจสอบและชำระบัญชี ครอบคลุมมากกว่า 40 เครือข่ายบล็อกเชน ทั้งแบบสาธารณะและส่วนตัว
ขณะเดียวกัน ระบบ Governance and Entitlement Management ยังเปิดโอกาสให้สถาบันปรับแต่งการอนุมัติหลายฝ่ายและกลไกบังคับนโยบายได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับองค์กร
IBM ยังเสริมความพร้อมในการใช้งานด้วยบริการที่เชื่อมต่อไว้ล่วงหน้า เช่น ระบบยืนยันตัวตนลูกค้า (KYC) ระบบต่อต้านการฟอกเงิน (AML) และบริการสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (yield generation) พร้อม API และ SDK สำหรับนักพัฒนา
มาตรฐานความปลอดภัยเหนือระดับ
หัวใจของ IBM Digital Asset Haven คือโครงสร้างความปลอดภัยแบบองค์รวม ที่รวมเทคโนโลยี Multi-Party Computation (MPC), Hardware Security Modules (HSM) และ Offline Signing Orchestrator (OSO) เพื่อรองรับการจัดเก็บสินทรัพย์แบบ cold storage อย่างปลอดภัย ทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบการเข้ารหัสแบบ quantum-safe เตรียมพร้อมรับมาตรฐานการกำกับดูแลในอนาคต
คลาริส อาแกฌ์ ซีอีโอของ Dfns กล่าวเสริมว่า “เรากับ IBM ได้ร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการดูแลสินทรัพย์ (custody) เพื่อบริหารระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ นำสินทรัพย์ดิจิทัลจากระยะทดลองสู่การใช้งานจริงในระดับโลก”
IBM ปรับกลยุทธ์สู่ยุคสินทรัพย์ดิจิทัล
IBM ระบุว่า Digital Asset Haven จะเปิดให้ใช้งานในรูปแบบ SaaS และ Hybrid SaaS ภายในไตรมาส 4 ปี 2568 และเวอร์ชัน On-Premises จะตามมาในไตรมาส 2 ปี 2569 ถือเป็นก้าวที่กล้าหาญที่สุดของ IBM ในการนำโครงสร้างพื้นฐานระดับธนาคารเข้าสู่โลกสินทรัพย์ดิจิทัล
นอกจากนี้ IBM ยังเดินหน้าเสริมพลังเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในปี 2567 ด้วยการเปิดตัว “Lightweight Engine” สำหรับแพลตฟอร์ม WatsonX.ai เพื่อเร่งประสิทธิภาพการใช้งาน AI ในภาคธุรกิจ โดยเฉพาะสำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กในภาคฟินเทคที่ต้องการระบบอัจฉริยะในต้นทุนที่เข้าถึงได้
อย่างไรก็ตามการเปิดตัว Digital Asset Haven สะท้อนการเปลี่ยนบทบาทของ IBM จาก “ยักษ์เทคโนโลยีองค์กร” สู่อีกเสาหลักของโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลโลก ซึ่งมีศักยภาพในการกลายเป็น “ระบบรากฐาน” ของการหมุนเวียนสินทรัพย์ดิจิทัลในยุคที่สถาบันและรัฐบาลทั่วโลกเริ่มเคลื่อนไหวเข้าสู่โลกโทเคน การผสานเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบธนาคารเข้ากับโครงสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล จึงอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของการสร้าง “ระบบการเงินยุคใหม่” ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับองค์กรอย่างแท้จริง.


