คณะทำงานปฏิรูปตลาดหุ้นไทย (Taskforce) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ร่วมกันเปิดเผย "ร่างมาตรการสร้างเสน่ห์ตลาดทุนไทย" เพื่อรับมือกับความท้าทายและความเปราะบางที่ส่งผลต่อการเติบโตของตลาดทุนไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย ในอดีตตลาดหุ้นไทยเคยมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเป็นแหล่งระดมทุนหลักของภาคธุรกิจ และมีสัดส่วนมูลค่าตลาดหุ้นสูงถึง 87% ของ GDP แต่ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความท้าทายหลายประการ
ผลตอบแทนต่ำ: อัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาคเดียวกัน
การลดน้ำหนักในดัชนีสากล: หุ้นไทยถูกลดน้ำหนักในดัชนี MSCI
ขาดหุ้นอนาคต: ขาดแคลนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต
ผู้ลงทุนรายย่อยลดลง: แนวโน้มผู้ลงทุนรายย่อยกำลังลดลง
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน และลดศักยภาพในการแข่งขันของตลาดหุ้นไทย ดังนั้น คณะทำงานได้ประเมินปัญหาและเสนอมาตรการที่จะช่วยดึงดูดและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ลงทุน ทั้งรายใหญ่ รายย่อย และนักลงทุนต่างชาติ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
Quality Demand (เพิ่มคุณภาพผู้ลงทุน): มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมการลงทุนระยะยาวผ่านบัญชีส่วนบุคคล และเพิ่มบทบาทของผู้ลงทุนสถาบัน
Attractive Supply (เพิ่มสินค้าให้ดึงดูด): ดึงดูดบริษัทที่มีศักยภาพทั้งในและต่างประเทศเข้าสู่ตลาดทุนไทย รวมถึงปรับปรุงกระบวนการ IPO ให้กระชับขึ้น และส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีการเปิดเผยแผนยกระดับมูลค่าบริษัทและข้อมูล ESG ที่ชัดเจน
Trusted Market (สร้างความเชื่อมั่น): เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านธรรมาภิบาล (Corporate Governance) ของ บจ. และยกระดับการกำกับดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการกระทำที่ไม่เหมาะสม
Supportive Ecosystem (ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน): เสริมสร้างระบบนิเวศน์ที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการลงทุนของผู้ลงทุนรายย่อย และอำนวยความสะดวกให้นักลงทุนต่างชาติสามารถใช้สิทธิ e-proxy ได้ง่ายขึ้น
การขับเคลื่อนมาตรการในระยะแรกจะเน้นไปที่ตลาดหุ้นเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ก.ล.ต. จะเดินหน้าพัฒนาตลาดทุนในส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคต ทั้งตลาดตราสารหนี้ หน่วยลงทุน และตลาดทุนดิจิทัล