บิทคอยน์ฟื้นตัวกลับมาแตะที่ระดับ 113,000 ดอลลาร์ จุดประกายความหวังของนักลงทุนว่าวงจรขาขึ้นอาจยังไม่จบ แม้ยังขาดแรงซื้อในตลาดสปอตกดดัน แต่แรงหนุนจากทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐ โดยเฉพาะโอกาสที่ Fed จะปรับลดดอกเบี้ย อาจกลายเป็นปัจจัยชี้ชะตาดันราคากลับไปสู่ระดับสูงสุดใหม่
บิทคอยน์ฟื้นแรง - นักลงทุนเริ่มจับตาแนวต้านใหม่
ข้อมูลจาก Cointelegraph Markets Pro และ TradingView ระบุว่า BTC/USD ดีดขึ้นแตะระดับ 113,279 ดอลลาร์ในการเปิดตลาดวอลล์สตรีท โดยการรีบาวด์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากรักษาแนวรับสำคัญที่ 110,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง นักวิเคราะห์และนักเทรดเริ่มประเมินโอกาสที่บิทคอยน์จะโจมตีแนวต้านเหนือขึ้นไปอย่างจริงจัง
ไมเคิล ฟาน เดอ ป็อป นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดัง ระบุว่า การที่บิทคอยน์ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน (SMA) ใกล้ระดับ 111,500 ดอลลาร์ และยืนยันการกลับมายืนเหนือ 112,000 ดอลลาร์ คือสัญญาณบวกสำคัญ พร้อมชี้ว่าทองคำที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องอาจเป็นตัวบ่งชี้ว่าบิทคอยน์มีแนวโน้มเดินตามรอย
ขณะที่นักเทรด Crypto Tony มองว่า ระดับ 113,000 ดอลลาร์ถือเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ โดยยืนยันว่าการยืนเหนือระดับดังกล่าวคือสัญญาณสำหรับการเปิดสถานะ Long
แรงซื้อสปอตยังไม่หนุน - แนะระวังการรีบาวด์สั้น
อย่างไรก็ดี บางฝ่ายยังคงแสดงความกังวล โดย เท็ด พิลโลว์ นักลงทุนคริปโต ระบุว่าตลาดยังขาดแรงซื้อจากสปอต ทำให้การฟื้นตัวอาจยังไม่มั่นคง สอดคล้องกับความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Material Indicators ที่เตือนว่าโซนต่ำกว่า 115,000 ดอลลาร์อาจยังสร้างแรงกดดันให้ฝั่งกระทิง และต้องจับตาความเป็นไปได้ของการปรับฐานลงมาอีกครั้ง
Fed ลดดอกเบี้ย - สร้างแรงหนุนสำคัญพาตลาดกลับสู่จุดสูงสุดใหม่
แม้ยังมีความไม่แน่นอน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าปัจจัยมหภาคคือกุญแจสำคัญ โดย Material Indicators ชี้ว่า หาก Fed เดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า จะช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนสำคัญให้บิตคอยน์มีโอกาสกลับไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ พร้อมเตือนนักลงทุนไม่ควรประมาทความเป็นไปได้ของการ “flush” หรือแรงขายกดราคาลงเพื่อทดสอบแนวรับอีกครั้ง
สัญญาณบวกกำลังก่อตัว แต่ยังเปราะบาง
การดีดกลับของบิทคอยน์เหนือ 113,000 ดอลลาร์สะท้อนว่าตลาดยังไม่หมดรอบขาขึ้น แม้ยังขาดแรงซื้อสปอตค้ำยัน แต่ทิศทางมหภาคและการลดดอกเบี้ยจาก Fed อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่นำพาราคากลับสู่จุดสูงสุดใหม่ ขณะที่นักลงทุนควรระวังแรงผันผวนระยะสั้น การยืนเหนือแนวรับหลักและการสะสมแรงซื้อเชิงโครงสร้าง จะเป็นตัวตัดสินว่าการรีบาวด์ครั้งนี้จะยั่งยืนหรือเพียงชั่วคราว