ตั้งแต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตรสิ้นสภาพไป ตลาดหุ้นไต่ระดับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขานรับรัฐบาลชุดใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล บนความคาดหวังว่า ปัญหาเศรษฐกิจจะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น เรียกความมั่นใจของนักลงทุนกลับมา และดัชนี ฯ คงตีฝ่าแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1300 จุดได้ ภายในเดือนกันยายนนี้ หรืออาจไปได้ไกลกว่า
หุ้นที่ไม่เดินหน้าอย่างร้อนแรง แกว่งตัวขึ้นในกรอบแคบ เป็นเพราะการจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ รัฐมนตรีหลายกระทรวงยังไม่ลงตัว แต่กระทรวงสำคัญด้านเศรษฐกิจมีความชัดเจนแล้ว สามารถสร้างความคาดหวังระดับหนึ่ง และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้ โผครม.ชุดใหม่จะลงตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นตลาดหุ้นให้ขยับตัวขึ้นได้อีกระลอก
เดือนกันยายน ตามสถิติที่เก็บกันไว้นานนับสิบปี หุ้นทั่วโลกมักประคองตัวลง แต่สำหรับตลาดหุ้นไทย เดือนกันยายนนี้ อาจเป็นอีกเดือนที่ตลาดหุ้นมีความคึกคัก เพราะมีข่าวดีประดังเข้ามาหลายด้าน ทั้งจากปัจจัยภายนอกในปัจจัยภายในประเทศ
สัปดาห์หน้าคงได้เห็นหน้าตารัฐบาลนายอนุทินอย่างชัดเจน และเมื่อได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จะเริ่มลงมือทำงานทันที โดยเฉพาะกระทรวงเศรษฐกิจ เพราะเวลาไล่หลังมาทุกขณะ นโยบายหรือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดเงินสู่ระบบ จะถูกผลักดันออกมาชุดใหญ่ ซึ่งหุ้นในกลุ่มค้าปลีก ทะยานขึ้นขานรับล่วงหน้าแล้ว
ข่าวดีที่จะตามมาหนุนอีกคือ การประชุมคณะกรรมนโยบายการเงินแห่งสหรัฐหรือ FOMC ระหว่างวันที่ 16-17 กันยายนนี้ โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 85% ว่า จะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% เหลือ 4% และ 4.25% แต่นักลงทุนบางส่วนมีมุมมองว่า FOMC อาจใช้ยาแรง กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังอ่อนแรง โดยลดดอกเบี้ยในคราวเดียว 0.5% ซึ่งจะปลุกให้หุ้นสหรัฐทะยานขึ้นขานรับ
นอกจากนั้น การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประมาณกลางเดือนตุลาคมนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์คาดว่า กนง.จะลดอีตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% จาก 1.75% เหลือ 1.50% และยังคาดหวังว่า การประชุมในเดือนธันวาคม อาจลดลงอีก 0.25%
ข่าวดี ๆ กำลังทยอยเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง จนสำนักวิเคราะห์โบรกเกอร์ค่ายต่าง ๆ กำลังขยับปรับเป้าหมายประมาณการดัชนี ฯ ปลายปีนี้ โดยบางสำนัก อาจขยับเป้าหมายเป็น 1400 จุด ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริง เท่ากับการลงทุนในปีนิจะเท่าทุน หรือเสมอตัว โดยจุดปิดหุ้นปี 2568 จะอยู่ในระดับเดียวกันกับจุดปิดปี 2567 ที่ระดับ 1400 จุด
อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดว่า หุ้นไทยในช่วงเวลาที่เหลืออีก 3 เดือนเศษของปีนี้ จะราบรื่น สดใส เป็นขาขึ้นรอบใหญ่หรือไม่ อยู่ที่นักลงทุนต่างชาติ
เพราะขณะที่นักลงทุนในประเทศ กำลังยินดีปรีดากับรัฐบาลนายอนุทุน ไล่ซื้อหุ้นดักเก็งกำไร ภายใต้ความคาดหวังว่า ตลาดหุ้นจะฟื้น แต่นักลงทุนต่างชาติกลับไม่มีปฏิกิริยาในเชิงบวก และยังทยอยขายหุ้นออกมาต่อเนื่องเหมือนเดิม
ถ้าต่างชาติไม่กลับมา และยังทยอยขายหุ้นออก การก้าวไปสู่เป้าหมายดัชนี ฯ 1400 จุดในปลายปีนี้ อาจไม่เกิดขึ้นง่าย เพราะจะต้องอาศัยแรงซื้อจากนักลงทุนในประเทศเท่านั้น
นอกจากข่าวดีจากการได้รัฐบาลใหม่ พร้อมกับความหวังใหม่ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน และข่าวดีการลดดอกเบี้ยทั้งของสหรัฐและการลดดอกเบี้ยในประเทศแล้ว ยังต้องเฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของนักลงทุนต่างชาติด้วย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์หลายคน ยังมีความคาดหวังว่า ต่างชาติจะกลับสู่ตลาดหุ้นไทย โดยค่าเวินบาทที่แข็งโป๊ก อาจเป็นอีกแรงจูงใจให้ขนเงินกลับไม่ไล่ซื้อหุ้นไทย
ถ้าต่างชาติกลับมาจริง จะเป็นอีกข่างวดีชิ้นใหญ่ที่จะดันดัชนี ฯ เดินหน้า จนทะลุ 1400 จุดได้อย่างสบาย ๆ