ขาลงหุ้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT น่าจะปิดฉากโดยสมบูรณ์แล้ว และกำลังกลับเช้าสู่รอบขาขึ้นเต็มตัว ราคาหุ้นไต่ระดับชึ้นต่อเนื่อง ก่อนทะยานขึ้นมาปิดที่ 42 บาท เมื่อวันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถือเป็นจุดสูงสุดในรอบนี้
ราคาหุ้น AOT เคยลงไปสร้างจุดต่ำสุดที่ 26.75 บาท เมื่อวันที่ 16 มิถุนาบนที่ผ่านมา และเมื่อเทียบกับจุดปิดล่าสุดที่ 42 บาท AOT ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 15.25 บาท หรือปรับตัวขึ้น 57%
นักลงทุนรายใดที่ใจกล้า เข้าไปช้อนซื้อไว้ในช่วงที่ราคาทรุดหนัก โกยกำไรงาม ๆ ไปแล้ว
หุ้น AOT ปักหัวลงมายาวนาน เนื่องจากนักลงทุนกังวลปัญหาหนี้ที่ค้างชำระของ บริษัท คิงส์ เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ผู้ได้รับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีใน 6 สนามบิน ซึ่งเกิดปัญหาสภาพคล่อง และยอดรายได้จากการขายสินค้าปลอดภาษีตกต่ำ ฉุดให้ผลประกอบการของ AOT ชะลอตัวลง
นอกจากนั้น จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทย ยังต่ำกว่าความคาดหมาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของ AOT นักลงทุนจึงทยอยขายหุ้นออก จนราคาดิ่งลงมาตลอด
ในช่วงขาลง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ แนะนำให้ช้อนซื้อ AOT เพราะมองว่าราคาปรับตัวลงลึกเกินไป แต่นักลงทุนที่ช้อนซื้อสวน ต้องเจ็บตัวกันถ้วนหน้า จึงเริ่มขยาด แม้ราคาจะหลุดต่ำกว่า 30 บาทก็ตาม
ปัญหาหนี้ค้างชำระของคิงส์ เพาเวอร์ฯ ไม่มีใครพูดถึงแล้ว และการเจรจากับ AOT ก็ได้บทสรุปกันเรียกร้อย โดยมีการขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งนักท่องเที่ยวจากจีน
หุ้น AOT กลับสู่ความสนใจของนักลงทุนอีกครั้ง มีแรงซื้อไหลเข้ามา ผลักดันให้ราคาดีดตัวขึ้น ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น ข้นสู่ความเป็นหุ้นยอดนิยม โดยมีความคาดหวังผลประกอบการที่มีแนวโน้มฟื้นตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพิ่มขึ้น
แม้ค่า พี/อี เรโช AOT จะสูงถึง 31 เท่า แต่ต่ำลง เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอัตราเงินปันผลตอบแทนที่มีอัตรา 1.88% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนผลประกอบการ เติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2566 มีกำไรสุทธิ 8,790.87 ล้านบาท ปี 2567 กำไรสุทธิ 19,182.39 ล้านบาท และงวด 6 เดือนแรกแรกปีนี้ มีกำไรสุทธิ 10,397.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,347.63 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย บริษัทโบรกเกอร์ 20 แห่ง ไม่ได้ตั้งเป้าหมายราคาหุ้น AOT ไว้สูงนัก โดยกำหนดราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 30.39 บาท มีบางโบรกเกอร์กำหนดราคาเป้าหมายเพียง 20 บาท แต่มีบางโบรกเกอร์ให้ราคาเป้าหมายที่ 48 บาท
ส่วนคำแนะนำของ 20 โบรกเกอร์ที่จัดทำบทวิเคราะห์หุ้น AOT มีเพียง 5 แห่งแนะนำให้ซื้อ อีก 8 แห่งแนะนำให้ถือ และแนะให้ขาย 7 แห่ง
จำนวนนักลงทุนรายย่อย AOT มีทั้งสิ้น 96,687 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะยาว และยังแบกหุ้นต้นทุนสูงอยู่ แต่การฟื้นจากหลุม กลับตัวสู่รอบขาขึ้นครั้งนี้ ช่วยลดแรงกดดันของผู้ถือหุ้นรายย่อยลงไปไม่น้อย
แต่ AOT ดีดตัวขึ้นมาม้วนเดียว 57% แล้ว และถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ปรับตัวขึ้นแรงที่สุด
คำถามคือ จะมีข่าวดีหรือปัจจัยหนุนอะไรที่ผลักดันให้ AOT ไปต่อได้ โดยไม่ต้องสะดุดหรือหยัดพักปรับฐานในระยะสั้น