ธนาคารไทยพาณิชย์ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา และอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ โดยให้ความช่วยเหลือทั้งกลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการและลูกค้าผู้ประกอบการ SME ทั้งมาตรการพักชำระและสินเชื่อพิเศษเพื่อซ่อมแซมบ้านและกิจการอย่างเต็มที่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
-กลุ่มลูกค้าบุคคล และกลุ่มลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ ประกอบด้วย
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
-สำหรับลูกค้าปัจจุบัน - สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash) พักชำระเงินต้นนาน 3 เดือน
-สำหรับลูกค้าใหม่ - สินเชื่อบ้านได้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมบ้าน (สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน (Home Loan Top Up) หรือ สินเชื่อบ้านได้เพิ่ม สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านคือเงิน (My Home My Cash Top Up)) ดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน ฟรีค่าประเมินราคาหลักประกัน ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ทาวน์โฮม คอนโดมิเนียม และ อาคารพาณิชย์
-สินเชื่อรถยนต์ สำหรับลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ สามารถพักชำระหนี้สูงสุด 3 เดือน และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน (รวมอายุผู้กู้ไม่เกิน 65 ปี)
-สินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการ (SSME)
-ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการปัจจุบัน พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 3 เดือน และสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการ ดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี นาน 24 เดือน ระยะเวลากู้สูงสุด 10 ปี
สำหรับลูกค้าสินเชื่อธุรกิจเพื่อผู้ประกอบการที่ต้องการขอสินเชื่อใหม่ (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) สามารถขอสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการภายใต้โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยมีเงื่อนไข ดังนี้:
อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 3.5% ต่อปี ในช่วง 24 เดือนแรก ค่าธรรมเนียมการให้สินเชื่อ (Front-End Fee) 1% ,ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี ,วงเงินสูงสุด 40 ล้านบาทต่อราย (รวมวงเงินจากทุกสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ),ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยลูกค้าต้องนำเงินกู้ไปใช้เพื่อฟื้นฟูกิจการที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น ไม่สามารถนำไปชำระหนี้เดิม หรือ Refinance และต้องยื่นเอกสารแสดงความเสียหายหรือผลกระทบจากสถานการณ์ประกอบการพิจารณา
-ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ธนาคารมีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรง และทางอ้อม ผ่าน 4 มาตรการหลัก ประกอบด้วย 1) พักชำระเงินต้นสูงสุดนาน 6 เดือน 2) พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุดนาน 3 เดือน 3) เพิ่มวงเงินหมุนเวียนชั่วคราว วงเงินสูงสุด 20% ของวงเงินหมุนเวียนเดิม และไม่เกิน 10 ล้านบาท 4) วงเงินกู้สำหรับปรับปรุง ซ่อมแซม หรือซื้อทดแทนทรัพย์สินที่เสียหายของกิจการ สูงสุด 20% ของวงเงินเดิม ไม่เกิน 10 ล้านบาท
ด้านธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY)ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้ากรุงศรี ครอบคลุมทั้งลูกค้าบุคคล และลูกค้าธุรกิจ SME ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลันจากอิทธิพลของพายุโซนร้อนวิภา และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน
รายละเอียดมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน ประกอบด้วย
ลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME รายย่อย ประกอบด้วย ลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือพักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 3 เดือน
ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME ประกอบด้วย
ลดค่างวด ครอบคลุมดอกเบี้ยจ่ายในแต่ละเดือน สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน หรือพักชำระเงินต้น (ชำระเพียงดอกเบี้ย) สูงสุดระยะเวลา 6 เดือน
ลูกค้าสินเชื่อกรุงศรี ออโต้พักชำระค่างวด เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ มีรายละเอียดดังนี้
มาตรการที่ 1: พักชำระหนี้ นานสูงสุด 2 รอบบัญชี สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ โดยพักชำระหนี้สูงสุดไม่เกิน 2 รอบบัญชี ระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2568 โดยระหว่างเข้าร่วมมาตรการพักชำระดังกล่าว ดอกเบี้ยยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก
มาตรการที่ 2: ปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือน ด้วยการขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ (ปรับปรุงโครงสร้างหนี้) (ทั้งนี้ ไม่รวมลูกค้าที่ได้รับการช่วยเหลือในมาตรการอื่นสูงสุดอยู่แล้ว)
**กรุงไทยเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดน่าน**
นายเอกชัย เตชะวิริยะกุล ประธานผู้บริหาร Risk ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงไทยได้ออกมาตรการทางการเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ครอบคลุมการลดภาระทางการเงิน ทั้งปรับลดค่างวดการผ่อนชำระ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย และการให้วงเงินฉุกเฉินเสริมสภาพคล่องในการดำรงชีพ รวมถึงการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยและทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
มาตรการแบ่งเบาภาระลูกค้าสินเชื่อปัจจุบัน
● สินเชื่อบ้าน และ สินเชื่อธุรกิจ SSME ลดค่างวดลง 75% ของค่างวดปัจจุบันนาน 1 ปี และ
ลดดอกเบี้ยเป็น 0% ต่อปี นาน 3 เดือน หลังจากนั้น ดอกเบี้ยคงที่ 2.5% ต่อปี นาน 33 เดือน (รวมระยะเวลาดอกเบี้ยพิเศษ นาน 3 ปี)
● สินเชื่อส่วนบุคคล ลดค่างวดลง 75% ของค่างวดปัจจุบัน นาน 1 ปี และ ลดดอกเบี้ย เป็น ดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี นาน 3 ปี
● สินเชื่อธุรกิจ SME ให้ความช่วยเหลือ ทั้งการลดอัตราดอกเบี้ย ลดค่างวดการชำระหนี้ พักชำระเงินต้น ชำระเฉพาะดอกเบี้ย หรือพักชำระเงินต้น และ/หรือ พักชำระดอกเบี้ยบางส่วน ขยายระยะเวลาสัญญา/ปรับตารางผ่อนชำระหนี้ เป็นต้น โดยเงื่อนไขและเกณฑ์การพิจารณาลูกค้าแต่ละรายเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ซึ่งธนาคารจะพิจารณาให้เหมาะสมกับลูกค้า
● ลูกค้าธุรกิจ สามารถติดต่อผู้ดูแลธุรกิจสัมพันธ์ของท่าน (RM) เพื่อประสานงานให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสม โดยธนาคารพิจารณาความช่วยเหลือให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของลูกค้า
มาตรการสำหรับสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการและซ่อมบ้าน
มาตรการสำหรับสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูกิจการและซ่อมบ้าน
-สินเชื่อบ้าน Top up สินเชื่อบ้านแลกเงิน และ สินเชื่อธุรกิจ SSME (Term Loan) ดอกเบี้ยคงที่ 0% ต่อปี นาน 3 เดือน หลังจากนั้น ดอกเบี้ยคงที่ 2.5% ต่อปี นาน 33 เดือน (รวมระยะเวลาดอกเบี้ยพิเศษ นาน 3 ปี กรณีสินเชื่อบ้าน ฟรีค่าประเมินและค่าจดจำนอง)
-สินเชื่อส่วนบุคคล (Term Loan) ดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี นาน 3 ปี
-สินเชื่อธุรกิจ SME (Term Loan) ระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 7 ปี ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี นาน 2 ปี หลังจากนั้น MLR-1% ต่อปี
ทั้งนี้ ลูกค้าสินเชื่อบ้านกรุงไทย และลูกค้าที่ซื้อประกันอัคคีภัยกับธนาคาร สามารถตรวจสอบความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย และ แจ้งเคลมค่าสินไหมกับบริษัทประกันภัยได้ที่ บมจ. ชับบ์สามัคคีประกันภัย LINE @chubbthailand โทร 1758 กด 2 หรือ 02-611-4470 หรือ www.chubb.com บมจ. กรุงไทยพานิชประกันภัย LINE @kpiclaim โทร 02- 624-1111 หรือ www.kpi.co.th บมจ. ทิพยประกันภัย (DHIP)LINE @dhipayainsurance แอปฯ Tip Flash Claim โทร 1736 หรือ www.dhipaya.co.th ศึกษารายละเอียดประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยได้ที่ https://krungthai.com/th/personal/insurance/others/property