ราคาบิทคอยน์ปรับตัวลงเล็กน้อยหลังพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 123,000 ดอลลาร์ นักลงทุนจับตารูปแบบ “ธงสามเหลี่ยมขาขึ้น” ที่ส่งสัญญาณพุ่งต่อ ขณะเดียวกันสถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มย้ายทุนเข้าอย่างจริงจัง จุดชนวนรอบใหม่ที่อาจไม่ใช่แค่ FOMO แบบเดิม แต่คือเกมยาวของทุนใหญ่
Bitcoin (BTC) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแรงขายเบาๆ หลังทะยานขึ้นแตะระดับ 123,000 ดอลลาร์ เมื่อไม่กี่วันก่อน ปัจจุบันราคาปรับฐานลงเล็กน้อย ซื้อขายกันที่ราว 118,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางสัญญาณเชิงเทคนิคที่ยังคง “ขาขึ้น” อย่างเต็มตัว
นักวิเคราะห์ชี้ว่ารูปแบบ “ธงสามเหลี่ยมขาขึ้น (Ascending Triangle)” ที่ปรากฏบนกราฟราคาระยะกลาง เป็นสัญญาณว่าตลาดกำลังพักตัวเพื่อเดินหน้าขึ้นต่อ โดยเฉพาะหากทะลุแนวต้านพร้อมวอลุ่มซื้อหนาแน่น เป้าหมายต่อไปอาจอยู่ที่ระดับ 137,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเส้น Fibonacci Extension ถัดไป
“นี่ไม่ใช่รอบของความคลั่งไคล้จากรายย่อย แต่เป็นรอบของทุนสถาบันที่ขยับเข้ามาอย่างมีแบบแผน” Werner Brönnimann, ผู้จัดการการลงทุน AMINA Bank กล่าว
สิ่งที่ทำให้การพุ่งขึ้นครั้งนี้แตกต่างจากรอบก่อนหน้า คือการที่กองทุนบำเหน็จบำนาญ พันธบัตรรัฐบาล และทุนองค์กรยักษ์ใหญ่ เริ่มแห่กันเข้าสะสม BTC ผ่านช่องทางที่ได้รับการกำกับอย่างเป็นทางการ เช่น ETF และพันธบัตรดิจิทัล
ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุการณ์สำคัญที่กระตุ้นตลาด ซึ่งผลักดันให้ตลาดคริปโตมีการซื้อขายอย่างร้อนแรง ได้แก่
1.ประธานาธิบดี ทรัมป์ ลงนามในกฎหมาย “Crypto Act” ฉบับแรกของสหรัฐ
2.บริษัทเอกชนกว่า 58 แห่งสะสม BTC รวมกว่า 7,700 BTC ภายในไม่กี่วัน
3.มีการออกพันธบัตรรัฐบาลแบบใหม่อีก 4 ฉบับ ที่สะสมรวมกว่า 817 BTC
4.นักลงทุนชื่อดังอย่าง ไมเคิล เซย์เลอร์ ยืนยันกลยุทธ์ “อยู่เงียบๆ สะสม Sats”
ขณะที่ข้อมูล on-chain ยังเผยว่า 98% ของ address ทั้งหมดอยู่ในภาวะกำไร ซึ่งเป็นสัญญาณของแรงหนุนที่ยังแข็งแรง แม้จะมีการพักฐานในช่วงสั้น
อีกด้านหนึ่ง ความสนใจใน Ethereum และโทเค็นเลเยอร์ 1 อย่าง Solana และ Avalanche ก็ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการไหลเข้าของทุนสถาบันแบบกระจายไปยัง altcoin ใหญ่ๆ เพิ่มขึ้น
สำหรับนักเก็งกำไรและนักลงทุนระยะยาว สัปดาห์นี้อาจเป็นช่วงเวลาทดสอบ “จิตวิทยาตลาด” ว่าการสะสมจะนำไปสู่คลื่นลูกใหม่หรือไม่ โดยมีระดับ 123,000 ดอลลาร์เป็นจุดทดสอบสำคัญ และ 137,000 ดอลลาร์เป็นเป้าหมายถัดไปที่ตลาดกำลังลุ้นให้แตะระดับที่สูงขึ้น