แพลตฟอร์มคริปโต Tokenize ประกาศถอนสมอออกจากสิงคโปร์ หลังถูกปฏิเสธใบอนุญาตจาก MAS สั่งปิดการให้บริการในประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายน ผู้ใช้ถูกสั่งให้ถอนเงินหรือโอนสินทรัพย์ออกตามระดับพอร์ต ล่าสุดเตรียมย้ายฐานไปลาบวน-อาบูดาบี พร้อมปรับยุทธศาสตร์ใหม่ในเวทีโลก ท่ามกลางสัญญาณชัดว่า สิงคโปร์เริ่มไม่เป็นมิตรกับกลุ่มฟินเทคอีกต่อไป
สำนักข่าว The Straits Times รายงานว่า Tokenize Xchange แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีชื่อดัง ประกาศยุติการดำเนินงานในประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ หลังสำนักงานการเงินของสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore: MAS) ปฏิเสธการอนุมัติใบอนุญาตสำหรับการให้บริการโทเค็นการชำระเงินดิจิทัล (Digital Payment Token – DPT)
จากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้ผู้ใช้งานในสิงคโปร์ ไม่สามารถทำการซื้อขายคริปโตผ่านแพลตฟอร์ม Tokenize ได้อีกต่อไป โดยบริษัทประกาศให้ผู้ใช้ดำเนินการถอนเงินสด หรือโอนสินทรัพย์คริปโตไปยังแพลตฟอร์มอื่น ภายใต้พอร์ตโฟลิโอที่อ้างอิง ณ เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา
Tokenize เคยระดมทุนไปแล้วกว่า 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีก่อน พร้อมตั้งเป้าขยายทีมในสิงคโปร์อย่างจริงจัง แต่แผนทั้งหมดต้องล่มกลางคัน เมื่อคำขอใบอนุญาตถูกปัดตกโดย MAS โดยไม่ระบุเหตุผลอย่างชัดเจน ส่งผลให้บริษัทต้องถอยทัพออกจากประเทศและวางแผนย้ายฐานไปยังเขตเศรษฐกิจใหม่
อย่างไรก็ดีบริษัทเตรียมย้ายการดำเนินงานหลักไปยัง “ลาบวน” เขตปกครองพิเศษในประเทศมาเลเซีย โดยกำลังอยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานบริการทางการเงินลาบวน (Labuan FSA) และคาดว่าจะปิดดีลภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมยื่นขอใบอนุญาตใน “อาบูดาบี โกลบอล มาร์เก็ต” (ADGM) เพื่อเปิดทางสู่การขยายกิจการระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในเขตตะวันออกกลางซึ่งมีนโยบายสนับสนุนฟินเทคอย่างชัดเจน
ทางด้านผู้ใช้บริการในสิงคโปร์ Tokenize ได้เปิดให้ถอนเงินเป็นขั้นตอนตามขนาดของพอร์ตการลงทุน ได้แก่
1.ต่ำกว่า 10,000 SGD: เริ่มถอนได้ตั้งแต่ 17 กรกฎาคม
2.10,000 – 99,999 SGD: ถอนได้ตั้งแต่ 1 สิงหาคม
3.100,000 SGD ขึ้นไป: ต้องรอถึง 1 กันยายน
ทั้งนี้ นักลงทุนที่พลาดช่วงเริ่มต้นยังสามารถถอนเงินได้ภายในวันสุดท้ายของ 30 กันยายน
Tokenize ระบุว่าการกำหนดช่วงถอนแบบแบ่งชั้นนี้เป็นมาตรการเพื่อบริหารจัดการระบบการถอนเงินให้ราบรื่นและไม่เกิดความล่าช้า โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบพอร์ตของตนผ่านแอปหรือเว็บไซต์ตามวันที่อ้างอิง
ขณะที่พนักงานประจำสำนักงานในสิงคโปร์จำนวน 15 ราย ได้รับแจ้งล่วงหน้าเรียบร้อย และจะพ้นสภาพภายในสิ้นกันยายนนี้ โดยบริษัทให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนในการหางานใหม่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลัง MAS มีคำสั่งเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ให้ผู้ให้บริการ DPT ทั้งหมดที่ทำตลาดกับกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ ต้องมีใบอนุญาตภายในวันที่ 30 มิถุนายน มิฉะนั้นต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ชัดว่า “สิงคโปร์กำลังยกระดับมาตรการควบคุมฟินเทค” และไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์มคริปโตอีกต่อไป
บรรดาผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตจำนวนมากเริ่มถอนตัวออกจากประเทศ รวมถึงรายงานจากวงในที่ระบุว่า พนักงานฟินเทคกว่า 500 คน กำลังพิจารณาย้ายไปยังประเทศที่มีนโยบายเป็นมิตรกว่า เช่น ฮ่องกง และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ทั้งนี้แม้ต้องถอนตัวจากสิงคโปร์ แต่ Tokenize ยืนยันไม่ลดความพยายาม และจะเดินหน้าต่อในเวทีโลกอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมแนะนำผู้ใช้ในสิงคโปร์เร่งดำเนินการโอนสินทรัพย์ออกจากระบบให้เสร็จสิ้นก่อนวันครบกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าและผลกระทบที่ไม่จำเป็น