อดีตนายกฯ ที่ห่างไกลเก้าอี้นานนับสิบปี กลับมาขึ้นเวทีสะกดทิศทางเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง ผ่านเวทีเสวนา “Unlocking Thailand’s Future” โดยเฉพาะการเสนอใช้ "บิทคอยน์-อีเธอเรียม" จับจ่ายซื้อของในห้างได้จริง ผ่านระบบ Sandbox และแปลงเป็นเงินบาททันที แซมด้วยแผน Smart City และ Golden Visa ฟังดูราวกับนโยบายรัฐ แต่คนพูดกลับไม่มีตำแหน่งแม้แต่สมาชิกสภา
แม้ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาล และไม่ได้รับการแต่งตั้งในคณะกรรมมาธิการนโยบายใด ๆ แต่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีผู้กลับมาจากดูไบอย่างสง่างาม ยังคงมีบทบาททางความคิดที่ “ดังกว่าผู้มีตำแหน่งในสภา” บนเวทีเสวนา “Unlocking Thailand’s Future” ด้วยคำปราศรัยห้าวหาญสุดเข้มข้นราวกับร่างงบประมาณรายจ่ายแผ่นดิน
ประเด็นร้อน ที่คนในแวดวงคริปโตต้องตั้งใจฟังคือ ข้อเสนอเปิดทางให้ประชาชนสามารถใช้ บิทคอยน์ (Bitcoin) และ อีเธอเรียม (Ethereum) จ่ายเงินซื้อสินค้าในชีวิตจริงได้ ผ่านระบบ Sandbox ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานทั่วประเทศภายใน พ.ศ. 2568 นี้
“เปลี่ยนคริปโตเป็นเงินบาททันที” นายทักษิณกล่าว แต่หลายคนตั้งคำถามในใจว่า “ใครกันแน่จะออกกฎหมาย?” เพราะนโยบายนี้แม้จะฟังล้ำ แต่ไม่ได้ออกจากทำเนียบรัฐบาล หรือธนาคารแห่งประเทศไทยแต่อย่างใด
แม้ว่าเดิมทีโครงการ Sandbox ดังกล่าวจะเริ่มที่ภูเก็ต แต่เมื่ออดีตนายกออกปากว่า “ทั่วประเทศ” ก็กลายเป็นประโยคที่ถูกพาดหัวราวกับประกาศจากราชกิจจานุเบกษา ทั้งที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับลูกอย่างเป็นทางการ
จุดขายสำคัญคือ ระบบแปลงคริปโตเป็นเงินบาทแบบอัตโนมัติ ทำให้ร้านค้าสามารถรับเงินดิจิทัลได้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด แต่สิ่งที่เผ็ดร้อนยิ่งกว่าคือ การวิเคราะห์ว่า “คนถือคริปโตส่วนใหญ่รวย ใช้จ่ายเยอะ” จึงควรเปิดทางให้พวกเขานำเงินมาเทในไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ไม่เพียงแค่นั้น นายทักษิณยังเปิดแผนอนาคตชาติแบบครบสูตร ทั้งโครงการ Smart City ด้วยกล้อง AI, Golden Visa 10 ปี สำหรับนักลงทุนต่างชาติ พร้อมแนบแพ็กเกจแถม “สิทธิขอสัญชาติไทย” เพื่อเร่งดูดเงินนอกให้ไหลเข้าอสังหา ฯ สร้างบ้าน สร้างเมือง และขยายฐานภาษีไทย
ฟังเผินๆ เหมือนเป็นนโยบายรัฐที่กำลังจะเกิดในงบปี พ.ศ. 2569 แต่ความจริงคือทั้งหมดมาจาก คนที่ไม่มีแม้แต่เก้าอี้ในสภา
ที่เด็ดกว่านั้นคือคำพูดทิ้งท้ายเรื่อง ปฏิรูประบบราชการสู่ดิจิทัล และการสร้าง “เจ้าภาพ” ในทุกภาคส่วน เพื่อหลีกเลี่ยงระบบราชการที่แยกส่วน ซึ่งผู้ฟังบางรายอาจรู้สึกเหมือนย้อนดูเทปจากปี พ.ศ. 2544
ในวันที่ผู้มีอำนาจบริหารตัวจริงถูกสั่งเบรกลงจากเก้าอี้ชั่วคราว และสภายังเลือกเดินทีละก้าว แต่ “บุคคลนอกทำเนียบฯ ที่เดินหมากการเมืองได้ล้ำกว่าผู้บริหารในสภา” กลับเดินเกมล้ำหน้าไปอีกหลายช่วงก้าว ก็ไม่แปลกที่หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “Sandbox” ตัวจริง…อยู่ที่ไหนแน่? เพราะในโลกที่ความจริงกับการสื่อสาร อาจสวนทางกันได้ทุกวัน คำพูดของ "อดีตผู้นำ" แต่กลับมีจุดรวมแสงไฟต่อทิศทางประเทศยิ่งกว่าหลายรัฐมนตรีเสียอีก จึงไม่อาจมองข้ามได้ง่าย ๆ เพราะแม้จะ “ไม่มีตำแหน่ง” แต่ก็ดูจะ "มีบทบาท" ในแบบที่หลายรัฐมนตรีอยากมีบ้างด้วยซ้ำ…