ตลาดหลักทรัพย์ฯยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ยกเลิกคำร้องของ"ไออีซี" สัปดาห์ที่ผ่านมา “สุทธิชัย” ยัน มาตรการห้ามเน็ตฯ-มาร์จิ้นมีประโยชน์ต่อนักลงทุน เผยจะมีการทบทวนหรือไม่ขึ้นอยู่ความคิดเห็นนักลงทุนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ย้ำขณะนี้ยังคงมีการใช้มาตรการดังกล่าว "ภัทรียา"หวังสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้อง พร้อมให้ข้อมูลชี้แจงข้อเท็จจริง
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ให้มีการยกเลิกคำสั่งของศาลปกครองกลางที่สั่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการยกเลิกการใช้มาตรการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (ห้ามเน็ตเซทเทิลเม้นท์) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) ของบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด(มหาชน) หรือ IEC ในวันที่วันที่ 22 มีนาคม - 22 มิถุนายน 2549 ราย ตั้งแต่วันที่16 พ.ค. จากที่ IEC ได้มีการขอให้ศาลปกครองกลางมีการคุ้มครอง
ทั้งนี้รายละเอียดที่ตลาดหลักทรัพย์มีการอุทธรณ์ คือ มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้นั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อนักลงทุน ซึ่งเมื่อใช้มาตรการดังกล่าวผู้ลงทุนก็สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ รวมถึงการฟ้องร้องดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะส่วนตัวหรือไม่เพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดมีการพิจารณา
โดยขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องรอผลการตัดสินของศาลปกครองกลางว่าจะมีการพิจารณาอย่างไร และรอผลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในเรื่องการยกเลิกคำสั่งของศาลปกครองกลาง จากคำร้องของ IEC ในการยกเลิกมาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น รวมถึงการเรียกค่าเสียหาย
นายสุทธิชัย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะยังคงมีการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นอยู่กับบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายที่จะต้องมีการใช้มาตรการดังกล่าว เพราะมองว่าการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น จะเกิดผลดีต่อนักลงทุนในการเข้ามาลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ ส่วนการที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการทบทวนในเรื่องการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นหรือไม่ หลังจากที่ IEC มีการฟ้องตลาดหลักทรัพย์หลังจากที่มีการใช้มาตรการดังกล่าวกับ IEC นั้น ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของนักลงทุนทั้งนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มย่อย และนักลงทุนกลุ่มย่อยแต่เป็นรายใหญ่ บริษัทจดทะเบียน หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้มีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเก็บเป็นข้อมูล เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯมีมาตรการใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จะต้องมีการการแก้ไข และปรับปรุงมาตรการเดิมๆ
“ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯมองว่า มีผู้เห็นด้วยที่จะมีการให้ใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นมากกว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป แต่จะมีการทบทวนเรื่องการใช้มาตการเน็ตฯและมาร์จิ้น หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของนักลงทุนโดยรวม บริษัทจดทะเบียน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง”นายสุทธิชัย กล่าวว่า
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องดำเนินการเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลที่เกิดขึ้นกับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และความจำเป็นจะต้องใช้มาตราการดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯดำเนินการไปเพื่อประโยชน์และยังเป็นการปกป้องนักลงทุนที่อาจจะได้รับผลกระทบหากไม่มีการใช้มาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ การยื่นหนังสืออุทธรณ์เพื่อต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องและเป็นรูปแบบที่ชัดเจนต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯเกี่ยวกับการปกป้องนักลงทุน
อนึ่งก่อนหน้านี้บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะ Net Settlement และ Margin Tradingในหลักทรัพย์ IEC ซึ่งภายหลังศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองและยกเลิกมาตรการดังกล่าว ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ได้ออกหนังสือแจ้งว่า เนื่องด้วยศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะ Net Settlement และ Margin Trading ในหลักทรัพย์ IEC และให้หลักทรัพย์ IEC ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้โดยวิธีการตามปกตินับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง(วันที่ 16 พฤษภาคม 2549) จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งเพิกถอนคำสั่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวข้างต้นในระหว่างรอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป
นายสุทธิชัย จิตรวาณิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยื่นหนังสืออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ให้มีการยกเลิกคำสั่งของศาลปกครองกลางที่สั่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯมีการยกเลิกการใช้มาตรการห้ามซื้อขายในลักษณะหักกลบราคาค่าซื้อกับราคาค่าขายหลักทรัพย์เดียวกันในวันเดียวกัน (ห้ามเน็ตเซทเทิลเม้นท์) และห้ามสมาชิกให้ลูกค้ากู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์(มาร์จิ้น) ของบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด(มหาชน) หรือ IEC ในวันที่วันที่ 22 มีนาคม - 22 มิถุนายน 2549 ราย ตั้งแต่วันที่16 พ.ค. จากที่ IEC ได้มีการขอให้ศาลปกครองกลางมีการคุ้มครอง
ทั้งนี้รายละเอียดที่ตลาดหลักทรัพย์มีการอุทธรณ์ คือ มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้นั้นถือว่ามีประโยชน์ต่อนักลงทุน ซึ่งเมื่อใช้มาตรการดังกล่าวผู้ลงทุนก็สามารถที่จะดูแลตัวเองได้ รวมถึงการฟ้องร้องดังกล่าวเป็นการกลั่นแกล้งเฉพาะส่วนตัวหรือไม่เพื่อให้ศาลปกครองสูงสุดมีการพิจารณา
โดยขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องรอผลการตัดสินของศาลปกครองกลางว่าจะมีการพิจารณาอย่างไร และรอผลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯได้มีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในเรื่องการยกเลิกคำสั่งของศาลปกครองกลาง จากคำร้องของ IEC ในการยกเลิกมาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น รวมถึงการเรียกค่าเสียหาย
นายสุทธิชัย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์จะยังคงมีการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นอยู่กับบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายที่จะต้องมีการใช้มาตรการดังกล่าว เพราะมองว่าการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น จะเกิดผลดีต่อนักลงทุนในการเข้ามาลงทุนในการซื้อขายหลักทรัพย์ฯ ส่วนการที่ตลาดหลักทรัพย์จะมีการทบทวนในเรื่องการใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นหรือไม่ หลังจากที่ IEC มีการฟ้องตลาดหลักทรัพย์หลังจากที่มีการใช้มาตรการดังกล่าวกับ IEC นั้น ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของนักลงทุนทั้งนักลงทุนรายใหญ่กลุ่มย่อย และนักลงทุนกลุ่มย่อยแต่เป็นรายใหญ่ บริษัทจดทะเบียน หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมถึงสื่อมวลชน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้มีการสำรวจความเห็นของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเก็บเป็นข้อมูล เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯมีมาตรการใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้จะต้องมีการการแก้ไข และปรับปรุงมาตรการเดิมๆ
“ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯมองว่า มีผู้เห็นด้วยที่จะมีการให้ใช้มาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นมากกว่าผู้ที่ไม่เห็นด้วย ดังนั้นขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯจะมีการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไป แต่จะมีการทบทวนเรื่องการใช้มาตการเน็ตฯและมาร์จิ้น หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของนักลงทุนโดยรวม บริษัทจดทะเบียน และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง”นายสุทธิชัย กล่าวว่า
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า สาเหตุที่ตลาดหลักทรัพย์ฯจะต้องดำเนินการเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯต้องการชี้แจงข้อเท็จจริงและเหตุผลที่เกิดขึ้นกับความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และความจำเป็นจะต้องใช้มาตราการดังกล่าว ซึ่งสิ่งที่ตลาดหลักทรัพย์ฯดำเนินการไปเพื่อประโยชน์และยังเป็นการปกป้องนักลงทุนที่อาจจะได้รับผลกระทบหากไม่มีการใช้มาตรการดังกล่าว
นอกจากนี้ การยื่นหนังสืออุทธรณ์เพื่อต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องและเป็นรูปแบบที่ชัดเจนต่อการดำเนินงานของตลาดหลักทรัพย์ฯเกี่ยวกับการปกป้องนักลงทุน
อนึ่งก่อนหน้านี้บมจ.อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองเพื่อให้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะ Net Settlement และ Margin Tradingในหลักทรัพย์ IEC ซึ่งภายหลังศาลปกครองได้มีคำสั่งคุ้มครองและยกเลิกมาตรการดังกล่าว ภายหลังตลาดหลักทรัพย์ได้ออกหนังสือแจ้งว่า เนื่องด้วยศาลปกครองได้มีคำสั่งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิกถอนคำสั่งห้ามซื้อขายในลักษณะ Net Settlement และ Margin Trading ในหลักทรัพย์ IEC และให้หลักทรัพย์ IEC ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้โดยวิธีการตามปกตินับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง(วันที่ 16 พฤษภาคม 2549) จนกว่าศาลปกครองจะมีคำพิพากษา
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งเพิกถอนคำสั่งของตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าวข้างต้นในระหว่างรอผลการพิจารณาคดีของศาลปกครอง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2549 เป็นต้นไป