บลจ.ธนชาตเสนอขายกองทุนเปิด ธนชาตตราสารรัฐคุ้มครองเงินต้น 6M (Thanachart Capital Protection Government Bond 6M Fund : TGOV 6 M) มูลค่า 2,000 ล้านบาท อายุประมาณ 6 เดือน ลงทุนตราสารภาครัฐ พร้อมคุ้มครองเงินต้น เสนอขายครั้งแรกครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคมนี้ มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต กล่าวว่าการที่อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันเร่งตัวสูงขึ้นมาก จนมีผลให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ จะเป็นตัวเร่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 14 วัน) สูงขึ้น เพื่อให้อยู่ในระดับใกล้เคียง หรือสูงกว่า เงินเฟ้อปีหน้า เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
การปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย R/P 14 วัน จะทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนตราสารภาครัฐสูงขึ้นตาม โดยผลตอบแทนการลงทุนตราสารภาครัฐ อายุประมาณ 6 เดือน ณ วันที่ 12 ตุลาคม 3.69% ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ที่มีอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 1.75%-2.50%
คาดจะอยู่ในระดับนี้ถึงสิ้นปี เนื่องจากสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ยังมีมาก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจึงปรับขึ้นได้ช้า สถานะการณ์ขณะนี้ จึงเป็นจังหวะที่นักลงทุนไม่ควรพลาดโอกาสลงทุนตราสารภาครัฐ
นายกำพลกล่าวต่อว่า เพื่อให้สอดรับกับดอกเบี้ยที่กำลังปรับขึ้น และตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ด้วยการคุ้มครองเงินต้น บลจ.ธนชาตจึงเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารรัฐคุ้มครองเงินต้น 6M (Thanachart Capital Protection Govnment Bond 6 M FUND : TGOV 6 M) ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคมนี้
เป็นกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น นโยบายลงทุนตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตร ธปท. พันธบัตร หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน
กองทุนเปิดธนชาตตราสารรัฐคุ้มครองเงินต้น 6M (TGOV 6 M) นโยบายเน้นลงทุนตราสารภาครัฐที่คุ้มครองเงินต้น เช่นเดียวกับกองทุนที่เสนอขายช่วงที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน จึงเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง คาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินในธนาคาร และต้องการคุ้มครองเงินต้นให้ได้คืน 6 เดือนข้างหน้า
กองทุนจะลงทุนตราสารจนครบกำหนดอายุไถ่ถอน เพื่อลดความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเปลี่ยน ด้วยระยะเวลาลงทุนสั้น ประมาณ 6 เดือน จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนครั้งใหม่ สอดรับภาวะดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกัน การรับผลตอบแทนในรูปขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ จะทำให้บุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกินทุนอีกด้วย นายกำพลกล่าว
ผู้สนใจ ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน ได้ที่ บลจ.ธนชาต โทร 0-2263-0800 กด 3
นายกำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต กล่าวว่าการที่อัตราเงินเฟ้อปัจจุบันเร่งตัวสูงขึ้นมาก จนมีผลให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยแท้จริงติดลบ จะเป็นตัวเร่งให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 14 วัน) สูงขึ้น เพื่อให้อยู่ในระดับใกล้เคียง หรือสูงกว่า เงินเฟ้อปีหน้า เพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ
การปรับเพิ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ย R/P 14 วัน จะทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนตราสารภาครัฐสูงขึ้นตาม โดยผลตอบแทนการลงทุนตราสารภาครัฐ อายุประมาณ 6 เดือน ณ วันที่ 12 ตุลาคม 3.69% ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือนธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 5 แห่ง ที่มีอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 1.75%-2.50%
คาดจะอยู่ในระดับนี้ถึงสิ้นปี เนื่องจากสภาพคล่องธนาคารพาณิชย์ยังมีมาก อัตราดอกเบี้ยเงินฝากจึงปรับขึ้นได้ช้า สถานะการณ์ขณะนี้ จึงเป็นจังหวะที่นักลงทุนไม่ควรพลาดโอกาสลงทุนตราสารภาครัฐ
นายกำพลกล่าวต่อว่า เพื่อให้สอดรับกับดอกเบี้ยที่กำลังปรับขึ้น และตอบสนองผู้ลงทุนที่ต้องการการลงทุนที่มั่นคง ด้วยการคุ้มครองเงินต้น บลจ.ธนชาตจึงเสนอขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารรัฐคุ้มครองเงินต้น 6M (Thanachart Capital Protection Govnment Bond 6 M FUND : TGOV 6 M) ระหว่างวันที่ 14-20 ตุลาคมนี้
เป็นกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น นโยบายลงทุนตราสารภาครัฐ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตร ธปท. พันธบัตร หรือตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน
กองทุนเปิดธนชาตตราสารรัฐคุ้มครองเงินต้น 6M (TGOV 6 M) นโยบายเน้นลงทุนตราสารภาครัฐที่คุ้มครองเงินต้น เช่นเดียวกับกองทุนที่เสนอขายช่วงที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน จึงเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง คาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าฝากเงินในธนาคาร และต้องการคุ้มครองเงินต้นให้ได้คืน 6 เดือนข้างหน้า
กองทุนจะลงทุนตราสารจนครบกำหนดอายุไถ่ถอน เพื่อลดความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเปลี่ยน ด้วยระยะเวลาลงทุนสั้น ประมาณ 6 เดือน จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนครั้งใหม่ สอดรับภาวะดอกเบี้ยที่ปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกัน การรับผลตอบแทนในรูปขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ จะทำให้บุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษีจากกำไรส่วนเกินทุนอีกด้วย นายกำพลกล่าว
ผู้สนใจ ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน ได้ที่ บลจ.ธนชาต โทร 0-2263-0800 กด 3