เอ็มดีใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) “วันชัย หล่อวัฒนตระกูล” คาดรายได้บริษัทปีนี้ 2.3 พันล้านบาท ขณะที่แผนระยะยาว ต้องใช้เงินทุนกว่า 2 พันล้านบาท วางท่อเชื่อมโยงระหว่างแม่น้ำบางปะกง ฉะเชิงเทรา มา ชลบุรี EASTW แก้ปัญหาน้ำแล้ง มีแผนออกหุ้นกู้ 1 พันล้านบาทรองรับโครงการนี้
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) กล่าวว่าสถานการณ์ขาดแคลนน้ำภาคตะวันออกช่วงนี้ โดยเฉพาะชลบุรีและระยอง ทำให้กรมชลประทานจัดสรรน้ำให้บริษัทลดลง 10% ส่งผลบริษัทต้องลดจ่ายน้ำ 10% เช่นกัน คาดระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 2 เดือน
บริษัทจะสูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 10 ล้านบาท หากฝนยังไม่ตกจนถึง ก.ย.นี้ จะส่งผลกระทบรายได้บริษัทลด 1% ของรายได้ทั้งหมด คิดเป็น 0.5% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะกระทบผลดำเนิน EASTW ไตรมาส 4 ปีนี้
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคาดว่าทั้งปีนี้ จะมีรายได้ 2,300 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายน้ำดิบ 1,500 ล้านบาท รายได้จากน้ำประปา 300 ล้านบาท รายได้จากท่อ 300 ล้านบาท จากน้ำดื่ม 200 ล้านบาท บริษัทได้ลงทุนรับปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นแล้ว 300 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับภาพรวม
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการปิโตรเคมี หรือพลังงาน เขายืนยันว่าทุกกลุ่มยังไม่มีการลดกำลังผลิต บางธุรกิจมีกระบวนการปรับน้ำทะเลเป็นน้ำจืดได้ รวมทั้งนำน้ำเสียมาใช้ใหม่ แม้ต้นทุนจะสูงกว่า แต่ก็ดีกว่าจะลดกำลังผลิต
ส่วนเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่จะลดกำลังผลิตธุรกิจปิโตรเคมี 40% ปลายเดือนนี้ เขากล่าวว่าเป็นสถานการณ์แต่ละบริษัทมากกว่า
เขากล่าวอีกว่าขณะนี้ EASTW แผนระยะยาวต้องใช้เงินทุนกว่า 2,000 ล้านบาท วางท่อเชื่อมโยงระหว่างแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มา จ.ชลบุรี ขณะนี้ ยังมีงบลงทุนจากการกระแสเงินสดที่มีประมาณ 1,700 ล้านบาท รวมถึงรายรับที่จะเข้ามา 600-700 ล้านบาท ยังเพียงพอต่อการลงทุน
แต่ช่วงกลางปีหน้า EASTW มีแผนออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาทรองรับโครงการนี้ เนื่องจากเดิม มีแผนวางท่อเชื่อมโยง 2 ปี จะลดเหลือ 1 ปี ส่งผลเงินทุนบริษัทที่มีอยู่ ไม่เพียงพอกลางปีหน้า จึงต้องออกหุ้นกู้ ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สิน 300 ล้านบาท
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) กล่าวว่าสถานการณ์ขาดแคลนน้ำภาคตะวันออกช่วงนี้ โดยเฉพาะชลบุรีและระยอง ทำให้กรมชลประทานจัดสรรน้ำให้บริษัทลดลง 10% ส่งผลบริษัทต้องลดจ่ายน้ำ 10% เช่นกัน คาดระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 2 เดือน
บริษัทจะสูญเสียรายได้เดือนละประมาณ 10 ล้านบาท หากฝนยังไม่ตกจนถึง ก.ย.นี้ จะส่งผลกระทบรายได้บริษัทลด 1% ของรายได้ทั้งหมด คิดเป็น 0.5% ของกำไรสุทธิ ซึ่งจะกระทบผลดำเนิน EASTW ไตรมาส 4 ปีนี้
อย่างไรก็ดี บริษัทยังคาดว่าทั้งปีนี้ จะมีรายได้ 2,300 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขายน้ำดิบ 1,500 ล้านบาท รายได้จากน้ำประปา 300 ล้านบาท รายได้จากท่อ 300 ล้านบาท จากน้ำดื่ม 200 ล้านบาท บริษัทได้ลงทุนรับปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้นแล้ว 300 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับภาพรวม
สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการปิโตรเคมี หรือพลังงาน เขายืนยันว่าทุกกลุ่มยังไม่มีการลดกำลังผลิต บางธุรกิจมีกระบวนการปรับน้ำทะเลเป็นน้ำจืดได้ รวมทั้งนำน้ำเสียมาใช้ใหม่ แม้ต้นทุนจะสูงกว่า แต่ก็ดีกว่าจะลดกำลังผลิต
ส่วนเครือปูนซิเมนต์ไทย (SCC) ที่จะลดกำลังผลิตธุรกิจปิโตรเคมี 40% ปลายเดือนนี้ เขากล่าวว่าเป็นสถานการณ์แต่ละบริษัทมากกว่า
เขากล่าวอีกว่าขณะนี้ EASTW แผนระยะยาวต้องใช้เงินทุนกว่า 2,000 ล้านบาท วางท่อเชื่อมโยงระหว่างแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มา จ.ชลบุรี ขณะนี้ ยังมีงบลงทุนจากการกระแสเงินสดที่มีประมาณ 1,700 ล้านบาท รวมถึงรายรับที่จะเข้ามา 600-700 ล้านบาท ยังเพียงพอต่อการลงทุน
แต่ช่วงกลางปีหน้า EASTW มีแผนออกหุ้นกู้ 1,000 ล้านบาทรองรับโครงการนี้ เนื่องจากเดิม มีแผนวางท่อเชื่อมโยง 2 ปี จะลดเหลือ 1 ปี ส่งผลเงินทุนบริษัทที่มีอยู่ ไม่เพียงพอกลางปีหน้า จึงต้องออกหุ้นกู้ ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สิน 300 ล้านบาท