บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น (SORKON) ยันกรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ “เจริญ รุจิราโสภณ” ซีอีโอ-เอ็มดีใหญ่บริษัท มีความผิดคดีถูกกล่าวหาว่านำเงินบริษัท อาหารมวลชน-บริษัท มหาชัยฟู้ดโปรเซสซิ่ง ใช้ในกิจการบริษัทอื่นในเครือฯ ไม่เกี่ยวข้อง-ไม่กระทบ SORKON ขณะที่นายเจริญขอลาออก เพื่อยื่นฎีกาสู้คดี โดยบริษัทตั้งนายสมชาย สกุลสุรรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท มีอำนาจทำการแทน
นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น (SORKON) กล่าวว่าตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท มีความผิดในคดีที่ถูกกล่าวหาว่านำเงินบริษัท อาหารมวลชน และบริษัท มหาชัยฟู้ดโปรเซสซิ่ง ใช้ในกิจการบริษัทอื่นในเครือฯ คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าคดีไม่มีมูล ให้ยกฟ้องไปแล้ว
SORKON ชี้แจงว่า คดีดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการบริษัท ประกอบกับคดีดังกล่าว ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เนื่องจากนายเจริญ ผู้ถูกกล่าวหา จะยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาต่อไป
คณะกรรมการบริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น ยืนยันว่าคดีดังกล่าว เป็นกรณีพิพาทส่วนบุคคล จึงไม่มีผลกระทบกิจการ หรือการบริหารงานของบริษัท ไม่ว่าผลของคดีในศาลฎีกาจะเป็นเช่นใด
เพราะบริษัทบริหารงานในรูปบริษัทมหาชน มีคณะกรรมการบริษัทกำหนดนโยบาย และควบคุมการบริหารงานบริษัทอยู่แล้ว
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสการบริหารงานบริษัท ระหว่างยื่นฎีกา นายเจริญขอลาออกจากกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท โดยจะแต่งตั้งนายสมชาย ประธานกรรมการบริษัท เป็นกรรมการผู้มีอำนาจแทน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
นายสมชาย สกุลสุรรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น (SORKON) กล่าวว่าตามที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท มีความผิดในคดีที่ถูกกล่าวหาว่านำเงินบริษัท อาหารมวลชน และบริษัท มหาชัยฟู้ดโปรเซสซิ่ง ใช้ในกิจการบริษัทอื่นในเครือฯ คดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าคดีไม่มีมูล ให้ยกฟ้องไปแล้ว
SORKON ชี้แจงว่า คดีดังกล่าว ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการบริษัท ประกอบกับคดีดังกล่าว ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด เนื่องจากนายเจริญ ผู้ถูกกล่าวหา จะยื่นฎีกาต่อศาลฎีกาต่อไป
คณะกรรมการบริษัท อุตสาหกรรมอาหาร ส.ขอนแก่น ยืนยันว่าคดีดังกล่าว เป็นกรณีพิพาทส่วนบุคคล จึงไม่มีผลกระทบกิจการ หรือการบริหารงานของบริษัท ไม่ว่าผลของคดีในศาลฎีกาจะเป็นเช่นใด
เพราะบริษัทบริหารงานในรูปบริษัทมหาชน มีคณะกรรมการบริษัทกำหนดนโยบาย และควบคุมการบริหารงานบริษัทอยู่แล้ว
เพื่อให้เกิดความโปร่งใสการบริหารงานบริษัท ระหว่างยื่นฎีกา นายเจริญขอลาออกจากกรรมการและกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัท โดยจะแต่งตั้งนายสมชาย ประธานกรรมการบริษัท เป็นกรรมการผู้มีอำนาจแทน จนกว่าคดีจะถึงที่สุด