ตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) รับ 2 บริษัทเข้าซื้อขายกุมภาพันธ์ บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) ผู้ผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ชั้นนำ ซื้อขายกลุ่มเทคโนโลยี 17 ก.พ. ด้าน บมจ.ค้าเหล็กไทย (TMT) ผู้ให้บริการเหล็กครบวงจร เตรียมเข้าซื้อขายกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง 18 ก.พ. นี้
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับหลักทรัพย์บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) และบริษัท ค้าเหล็กไทย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จะเข้าซื้อขายกลุ่มเทคโนโลยี หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.เป็นต้นไป ชื่อย่อ SPPT
สำหรับ บมจ.ค้าเหล็กไทย จะจดทะเบียนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง วันที่ 18 ก.พ. ชื่อย่อซื้อขาย TMT
บมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 250 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ระหว่างวันที่ 7-8 ก.พ. บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 45,925,000 หุ้นประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ราคาหุ้นละ 2.40 บาท
หุ้นเพิ่มทุนอีก 4,075,000 หุ้น SPPT เสนอขายพนักงานระดับผู้จัดการ ราคา 2.16 บาท บล. ยูไนเต็ด เป็นที่ปรึกษาการเงินระดมทุน
ณ ราคา IPO 2.40 บาท หุ้น SPPT อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) 7.06 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่า P/E Ratio เฉลี่ยหุ้นหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 17% P/E หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 8.53 เท่า
SPPT ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีความเที่ยงตรงสูง ให้ผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ชั้นนำของโลก ได้แก่ มินีแบ เจวีซี ไซโก้ เป็นต้น SPPT มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเกือบ 120 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตจาก 70 เป็น 100 ล้านชิ้นต่อปี ชำระหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรหลังหักภาษีและทุนสำรองต่างๆ หลังเสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป SPPT ถือหุ้นใหญ่โดยนายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ 32% ของทุนชำระแล้ว
ด้าน บมจ.ค้าเหล็กไทย (TMT) ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 425 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 340 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุน 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกวันที่ 3-4 ก.พ. ราคาหุ้นละ 5.95 บาท บล. ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาการเงิน
ราคาที่ TMT เสนอขายประชาชนทั่วไป ประเมินจากราคาพื้นฐานของกิจการ โดยใช้ P/E Ratio 7.6 เท่า เทียบ P/E Ratio เฉลี่ยหมวดวัสดุก่อสร้างปี 2547 ที่ 10.79 เท่า
TMT เป็นผู้ให้บริการเหล็กครบวงจร ทั้งจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กรูปทรงแบนและรูปทรงยาว ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รวมถึงรับจ้างแปรรูปเหล็กที่ลูกค้าจัดหาวัตถุดิบให้ บริการขนส่ง และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
เงินที่ได้จากการระดมทุน 505.75 ล้านบาท TMT จะขยายโรงงานที่อยุธยา เพื่อเพิ่มกำลังแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะพิ่มได้อีกปีละ 190,000 ตัน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายตัวธุรกิจในประเทศ เช่น ผู้ค้าส่ง กิจการอุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงงานผลิตภัณฑ์เหล็กขึ้นรูปเย็น โรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ เป็นต้น
บมจ. ค้าเหล็กไทย ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มธรสารสมบัติ 70.80% ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป นโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ นักลงทุนที่ซื้อหุ้นสามัญผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งนี้ จะมีสิทธิรับเงินปันผลจ่ายจากผลประกอบการบริษัทปี 2547
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่าคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ อนุมัติรับหลักทรัพย์บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) และบริษัท ค้าเหล็กไทย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บมจ.ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จะเข้าซื้อขายกลุ่มเทคโนโลยี หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะเริ่มซื้อขายตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.เป็นต้นไป ชื่อย่อ SPPT
สำหรับ บมจ.ค้าเหล็กไทย จะจดทะเบียนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดวัสดุก่อสร้าง วันที่ 18 ก.พ. ชื่อย่อซื้อขาย TMT
บมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) (SPPT) ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 250 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 200 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ระหว่างวันที่ 7-8 ก.พ. บริษัทเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 45,925,000 หุ้นประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ราคาหุ้นละ 2.40 บาท
หุ้นเพิ่มทุนอีก 4,075,000 หุ้น SPPT เสนอขายพนักงานระดับผู้จัดการ ราคา 2.16 บาท บล. ยูไนเต็ด เป็นที่ปรึกษาการเงินระดมทุน
ณ ราคา IPO 2.40 บาท หุ้น SPPT อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) 7.06 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่า P/E Ratio เฉลี่ยหุ้นหมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ประมาณ 17% P/E หมวดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 8.53 เท่า
SPPT ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ที่มีความเที่ยงตรงสูง ให้ผู้ผลิตและประกอบชิ้นส่วนฮาร์ดดิสก์ชั้นนำของโลก ได้แก่ มินีแบ เจวีซี ไซโก้ เป็นต้น SPPT มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเกือบ 120 ล้านบาท ขยายกำลังผลิตจาก 70 เป็น 100 ล้านชิ้นต่อปี ชำระหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
นโยบายจ่ายเงินปันผล ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรหลังหักภาษีและทุนสำรองต่างๆ หลังเสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป SPPT ถือหุ้นใหญ่โดยนายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ 32% ของทุนชำระแล้ว
ด้าน บมจ.ค้าเหล็กไทย (TMT) ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 425 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นสามัญเดิม 340 ล้านหุ้น หุ้นเพิ่มทุน 85 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกวันที่ 3-4 ก.พ. ราคาหุ้นละ 5.95 บาท บล. ซีมิโก้ เป็นที่ปรึกษาการเงิน
ราคาที่ TMT เสนอขายประชาชนทั่วไป ประเมินจากราคาพื้นฐานของกิจการ โดยใช้ P/E Ratio 7.6 เท่า เทียบ P/E Ratio เฉลี่ยหมวดวัสดุก่อสร้างปี 2547 ที่ 10.79 เท่า
TMT เป็นผู้ให้บริการเหล็กครบวงจร ทั้งจัดหาผลิตภัณฑ์เหล็กรูปทรงแบนและรูปทรงยาว ผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็ก รวมถึงรับจ้างแปรรูปเหล็กที่ลูกค้าจัดหาวัตถุดิบให้ บริการขนส่ง และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง
เงินที่ได้จากการระดมทุน 505.75 ล้านบาท TMT จะขยายโรงงานที่อยุธยา เพื่อเพิ่มกำลังแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งคาดว่าจะพิ่มได้อีกปีละ 190,000 ตัน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรองรับการขยายตัวธุรกิจในประเทศ เช่น ผู้ค้าส่ง กิจการอุตสาหกรรมก่อสร้าง โรงงานผลิตภัณฑ์เหล็กขึ้นรูปเย็น โรงงานผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่รถยนต์ เป็นต้น
บมจ. ค้าเหล็กไทย ถือหุ้นใหญ่โดยกลุ่มธรสารสมบัติ 70.80% ของทุนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้นประชาชนทั่วไป นโยบายจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ นักลงทุนที่ซื้อหุ้นสามัญผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งนี้ จะมีสิทธิรับเงินปันผลจ่ายจากผลประกอบการบริษัทปี 2547