บมจ. ซิงเกิ้ล พอยท์ (SPPT) ประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนโลหะอุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสก์ เผยนักลงทุนจองหมดแล้ว 50 ล้านหุ้น สถาบันจองล้น 3 เท่า มั่นใจหุ้นเหนือจอง ผู้บริหารเล็ง ขยายสินค้าไปอุตสาหกรรมรถยนต์-เครื่องมือแพทย์ เพิ่มรายได้เป็น 20%ของรายได้รวม เปิดจองหุ้นเป็นทางการ 7-8 ก.พ ราคา 2.40 บาท เทรดในตลาดหุ้น 17 ก.พ.นี้
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูไนเต็ด (US) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SPPT) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนโลหะอุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสก์ กล่าวว่าหุ้น SPPT ที่เสนอขายครั้งนี้ 50 ล้านหุ้น ขณะนี้ได้รับการจองซื้อหุ้นหมดแล้ว
นักลงทุนสถาบันสนใจจองซื้อล้น 2-3 เท่า เพราะนักลงทุนสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ บริษัทมั่นใจว่าราคาหุ้นSPPT จะสูงกว่าราคาจอง หลังเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย 17 ก.พ. นี้ จากกรที่นักลงทุนสนใจจองซื้อจำนวนมาก และราคาหุ้นของบริษัทให้ส่วนลด 17.23% จากสัดส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (P/E) กลุ่มชิ้นส่วนอีเลคทรอนิกส์ในกระดาน 8.53 เท่า รวมถึงบริษัทอัตราเติบโตดีมาตลอด ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นไทยก็ดีขึ้น
50 ล้านหุ้น แบ่งเป็น เสนอขายนักลงทุนสถาบัน13.8 ล้านหุ้น ประชาชนทั่วไป12.30 ล้านหุ้น และพนักงานระดับผู้บริหารของ SPPT 4.07 ล้านหุ้น ราคาต่ำกว่า IPO 10% บริษัทจะเปิดจองซื้อสำหรับนักลงทุนทั่วไป เป็นทางการวันที่ 7-8 ก.พ. ราคาหุ้นละ 2.40 บาท และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 17 ก.พ.นี้ โดยจะระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท
ทางด้านนายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายใน ตลท. หลังเลือกตั้งทั่วไปในไทย บริษัทไม่กังวลว่าราคาหุ้นบริษัทจะต่ำกว่าราคาจอง
เพราะตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มูลค่าซื้อขายรวมก็สูง แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังสนใจลงทุนในตลาดหุ้น การตั้งราคาหุ้น SPPT 2.40 บาท ค่า P/E เพียง 7 เท่า จากกลุ่ม 8.5 เท่า และ P/E ตลาดฯ 9 เท่า
บริษัทมีแผนจะขยายสินค้าเข้าไปในชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องมือแพทย์ โดยจะเป็นส่วนปั๊มของเหลวเข้าสู่ร่างกาย คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ดังกล่าวเพิ่มเป็น 20% อีก 2-3 ปี จากปัจจุบัน สัดส่วนน้อยมาก ขณะนี้ อยู่ระหว่างทดลองใช้
นางศศิธร พงศธร กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ยูไนเต็ด (US) ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (SPPT) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตชิ้นส่วนโลหะอุตสาหกรรมผลิตฮาร์ดดิสก์ กล่าวว่าหุ้น SPPT ที่เสนอขายครั้งนี้ 50 ล้านหุ้น ขณะนี้ได้รับการจองซื้อหุ้นหมดแล้ว
นักลงทุนสถาบันสนใจจองซื้อล้น 2-3 เท่า เพราะนักลงทุนสนใจลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ บริษัทมั่นใจว่าราคาหุ้นSPPT จะสูงกว่าราคาจอง หลังเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทย 17 ก.พ. นี้ จากกรที่นักลงทุนสนใจจองซื้อจำนวนมาก และราคาหุ้นของบริษัทให้ส่วนลด 17.23% จากสัดส่วนราคาหุ้นต่อกำไร (P/E) กลุ่มชิ้นส่วนอีเลคทรอนิกส์ในกระดาน 8.53 เท่า รวมถึงบริษัทอัตราเติบโตดีมาตลอด ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นไทยก็ดีขึ้น
50 ล้านหุ้น แบ่งเป็น เสนอขายนักลงทุนสถาบัน13.8 ล้านหุ้น ประชาชนทั่วไป12.30 ล้านหุ้น และพนักงานระดับผู้บริหารของ SPPT 4.07 ล้านหุ้น ราคาต่ำกว่า IPO 10% บริษัทจะเปิดจองซื้อสำหรับนักลงทุนทั่วไป เป็นทางการวันที่ 7-8 ก.พ. ราคาหุ้นละ 2.40 บาท และเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) 17 ก.พ.นี้ โดยจะระดมทุนกว่า 100 ล้านบาท
ทางด้านนายประพจน์ พลพิพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) กล่าวว่า การที่หุ้นของบริษัทเข้าซื้อขายใน ตลท. หลังเลือกตั้งทั่วไปในไทย บริษัทไม่กังวลว่าราคาหุ้นบริษัทจะต่ำกว่าราคาจอง
เพราะตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง มูลค่าซื้อขายรวมก็สูง แสดงให้เห็นว่านักลงทุนยังสนใจลงทุนในตลาดหุ้น การตั้งราคาหุ้น SPPT 2.40 บาท ค่า P/E เพียง 7 เท่า จากกลุ่ม 8.5 เท่า และ P/E ตลาดฯ 9 เท่า
บริษัทมีแผนจะขยายสินค้าเข้าไปในชิ้นส่วนรถยนต์ และเครื่องมือแพทย์ โดยจะเป็นส่วนปั๊มของเหลวเข้าสู่ร่างกาย คาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้ดังกล่าวเพิ่มเป็น 20% อีก 2-3 ปี จากปัจจุบัน สัดส่วนน้อยมาก ขณะนี้ อยู่ระหว่างทดลองใช้