xs
xsm
sm
md
lg

SMART CARD

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย ชาลอต โทณวณิก ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ในบทความเกี่ยวกับบัตรพลาสติกเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน (หากยังไม่ลืม) ดิฉันได้ติดท่านผู้อ่านไว้ว่า จะพูดถึง smart card หรือเรียกว่าบัตรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นบัตรพลาสติกประเภทหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ความ SMART ไม่ได้อยู่ที่ตัวบัตรพลาสติก แต่อยู่ที่ microchip ที่ฝังอยู่ภายในบัตร ที่เป็นอัจฉริยะ ที่สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้มากมาย

โดยหากเทียบกับบัตร ATM หรือบัตรเครดิตที่มีใช้กันอยู่ในประเทศในปัจจุบัน จะมีข้อมูลที่บรรจุอยู่ค่อนข้างจำกัด เช่น ชื่อนามสกุลเจ้าของบัญชี ถึงแม้ว่าต่อมา ได้มีการพัฒนามาใช้ในวัตถุประสงค์อย่างอื่นด้วย เช่น บัตรนักศึกษา ที่ธนาคารบางแห่งร่วมกันกับสถานศึกษาออกให้กับนักศึกษา

ซึ่งถือว่าเป็น Co-brand หรือการร่วมกันระหว่างผู้ออกบัตร (โดยมากเป็นบัตร ATM หรือ Visa Electron) กับสถานศึกษา โดยนอกจากจะเป็นบัตรที่ใช้ทำธุรกรรมกับธนาคารแล้ว ยังเป็นบัตรที่ใช้ในสถานศึกษา เช่น เป็นบัตรประจำตัวนักศึกษา บัตรเข้าห้องสมุด บัตรลงทะเบียนในกิจกรรมต่างๆ

ซึ่งปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีได้มีการพัฒนาไปมาก ดังนั้น เมื่อนักศึกษาจะลงทะเบียน ก็สามารถลงทะเบียนโดยใช้บัตรนักศึกษา เพื่อตัดบัญชีธนาคารชำระค่าลงทะเบียนได้เลย

ที่ยกตัวอย่างมา ก็เป็นการพัฒนาการใช้บัตร ATM และ debit card ให้ครอบคลุมในวงกว้างขึ้นกว่าการเบิกถอนเงิน หรือชำระค่าสินค้าและบริการ แต่หากเป็น smart card แล้ว จะสามารถใช้ได้ในวงกว้างมากขึ้น และหลากหลายวัตถุประสงค์

แต่หากจะเป็นที่นิยม ดังเช่นประเทศใกล้ๆ เรา ก็คือฮ่องกงนั้น การมี smart card ก็เหมือนกับการพกกระเป๋าสตางค์ใบหนึ่ง ที่สามารถใช้ในการเดินทาง ทั้งขึ้นรถ ลงเรือ รถไฟใต้ดิน ใช้ได้หมด โดยมี smart card 1 ใบ

แต่จะเป็นระบบ prepaid คือเป็นการจ่ายเงินล่วงหน้า เหมือนบัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ เมื่อจะใช้ ก็เอาบัตรไปแปะบนตัวอ่านที่อยู่ตามทางเข้าที่จะไปขึ้นรถลงเรือ ไม่ต้องเอาบัตรสอดเข้าไปเหมือนเวลาเราขึ้นรถไฟฟ้า BTS

นอกจากนั้น ยังสามารถนำไปชำระค่าสินค้าและบริการได้อีก ในเครือข่ายที่รับบัตรดังกล่าว เช่น 7-11 ซึ่งในประเทศในแถบยุโรป จะมีการใช้อย่างกว้างขวางมากกว่า และสามารถใช้ในหลายๆ ประเทศด้วยบัตรใบเดียว เช่น ประเทศที่ใช้สกุลยูโรด้วยกัน ดังนั้น จึงมักเรียกกันว่าเป็น e-purse หรือ e-pocket หมายถึงประเป๋าสตางค์อีเลคโทรนิค คือมีบัตรใบเดียว เหมือนมีกระเป๋าสตางค์ติดตัว

ประเทศไทย ก็จะมีการเริ่มนำบัตร smart card มานำเสนอในเวลาไม่นานนี้ แต่จะเป็นที่แพร่หลายเพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับการที่จะสามารถสร้างพันธมิตรที่รับชำระเงินด้วยระบบของบัตร smart card ได้มากน้อยเพียงใด เพราะจะต้องมีการปรับระบบเทคโนโลยีของพันธมิตร ให้สอดคล้องกับระบบของ smart card

แต่เนื่องจากการที่ระบบเทคโนโลยีในปัจจุบันเป็นระบบเปิด คือสามารถที่จะคุยกัน หรือเชื่อมต่อกันได้ เพียงแต่มีการปรับระบบบ้าง ไม่ใช่ต้องยกของเก่าทิ้ง แล้วซื้อใหม่เลยเหมือนในอดีต ที่ดิฉันชอบ คือความสะดวกในการใช้ของ smart card

เพราะระบบจะสามารถอ่านได้ทะลุทะลวงจริงๆ อะไรคือทะลุทะลวง ก็คือ สมมติคุณผู้ชายใส่ smart card ไว้ในกระเป๋าสตางค์ (แบบผู้ชายที่พกใส่กระเป๋ากางเกง) แค่ยกกระเป๋ามาแปะตรงตัวอ่าน smart card เครื่องก็อ่านได้ ไม่ต้องเอาบัตรออกจากกระเป๋า เป็นต้น

นอกจากนั้น ระบบของ smart card จะสามารถป้องกันการคัดลอกข้อมูล ที่ทำให้เกิดกรณีการทุจริต ดูดข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้ ได้ดีกว่าบัตรพลาสติกแบบที่เป็นแถบแม่เหล็กที่ใช้กันในปัจจุบัน ทำให้เกิดความปลอดภัยในข้อมูลของเจ้าของบัตรเครดิต ไม่นานเกินรอ คงจะเป็นที่แพร่หลายในเมืองไทย เพราะเห็นมีป้าย bill board ขนาดยักษ์ในหลายๆ จุดที่เริ่มจะโปรโมทเรื่อง smart card นี้แล้ว

ในบทความครั้งนี้ ดิฉันไม่ได้หมายความรวมถึง บัตรประชาชนแบบ smart card ซึ่งจะหาข้อมูลแล้วมาเล่าสู่กันฟังในคราวหลังนะคะ ซึ่งบัตรดังกล่าว จะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดในอนาคต และมีโดยไม่ต้องสมัคร เพราะรัฐบาลเขาให้ค่ะ

สนใจสอบถามข้อมูลสามารถส่งมาได้ที่ dcharlotte@krungsri.com หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 02-683-1604
กำลังโหลดความคิดเห็น