ผู้บริหารบีอีซี เวิลด์ระบุการแข่งขันฟุตบอลยูโรจะช่วยให้รายได้ไตรมาส 2-3 ดีขึ้น เนื่องจากขายโฆษณาได้มากขึ้น เชื่อผลประกอบการทั้งปีจะเติบโตถึงร้อยละ 15 พร้อมคาดว่าไตรมาส 4 จะเสนอขายหุ้นบริษัท บีอีซี-เทโรฯ ให้ประชาชนทั่วไป (ไอพีโอ) เป็นครั้งแรก
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2-3 ปี 2547 ว่าจะออกมาดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายโฆษณามากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันฟุตบอลยูโรซึ่งบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดร่วมกับช่อง 7 ไว้ ขณะเดียวกันในไตรมาสดังกล่าวยังเป็นช่วงที่ตลาดโฆษณามีความคึกคักด้วย
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 2547 บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้ประมาณร้อยละ 15 เพราะในช่วงเดือนตุลาคมนี้บริษัทปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับการขยายตัวของเม็ดเงินในอุตสาหกรรมโฆษณา ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้ง มักมีสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยธุรกิจรถยนต์จะเป็นกลุ่มที่โดดเด่นมากที่สุด ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มค่าโฆษณาช่วงไพรม์ไทม์ขึ้นร้อยละ 10 หรือจาก 390,000 บาทต่อนาที เป็น 420,000 บาทต่อนาที ในปัจจุบัน
“ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เรทติ้งของช่อง 3 ลดลงอยู่ในระดับร้อยละ 21 เป็นผลจากการปรับราคาโฆษณาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเรทติ้งของช่อง 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 29-30 เป็นผลจากตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ได้ปรับผังรายการช่วงเวลาไพรม์ไทม์ขยับละครก่อนข่าวมาเป็นเวลา 19.30-20.00 น. เพื่อเลี่ยงปะทะเวลาละครก่อนข่าวของช่อง 7 เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจังหวะเดียวกับการออกอากาศรายการข่าวของช่อง 7 พอดี ทำให้เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ชมที่ไม่ต้องการดูข่าว โดยเรทติ้งที่เพิ่มขึ้นจากสถิติพบว่ามาจากผู้ชมช่อง 7 ที่ไม่ต้องการดูข่าว” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการนำหุ้นบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าคงต้องดูบรรยากาศการลงทุนใน ตลท.เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าอาจดำเนินการขายหุ้นไอพีโอในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยจะเสนอขายจำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ส่วนราคาเสนอขายยังไม่ได้กำหนด
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2-3 ปี 2547 ว่าจะออกมาดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายโฆษณามากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการแข่งขันฟุตบอลยูโรซึ่งบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดร่วมกับช่อง 7 ไว้ ขณะเดียวกันในไตรมาสดังกล่าวยังเป็นช่วงที่ตลาดโฆษณามีความคึกคักด้วย
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการทั้งปี 2547 บริษัทยังเชื่อว่าจะสามารถเติบโตได้ประมาณร้อยละ 15 เพราะในช่วงเดือนตุลาคมนี้บริษัทปรับค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นอีก ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับการขยายตัวของเม็ดเงินในอุตสาหกรรมโฆษณา ซึ่งในช่วงครึ่งหลังของปีนี้คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้ง มักมีสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยธุรกิจรถยนต์จะเป็นกลุ่มที่โดดเด่นมากที่สุด ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เพิ่มค่าโฆษณาช่วงไพรม์ไทม์ขึ้นร้อยละ 10 หรือจาก 390,000 บาทต่อนาที เป็น 420,000 บาทต่อนาที ในปัจจุบัน
“ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เรทติ้งของช่อง 3 ลดลงอยู่ในระดับร้อยละ 21 เป็นผลจากการปรับราคาโฆษณาในช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดเรทติ้งของช่อง 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 29-30 เป็นผลจากตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ได้ปรับผังรายการช่วงเวลาไพรม์ไทม์ขยับละครก่อนข่าวมาเป็นเวลา 19.30-20.00 น. เพื่อเลี่ยงปะทะเวลาละครก่อนข่าวของช่อง 7 เพราะช่วงเวลาดังกล่าวจังหวะเดียวกับการออกอากาศรายการข่าวของช่อง 7 พอดี ทำให้เพิ่มทางเลือกสำหรับผู้ชมที่ไม่ต้องการดูข่าว โดยเรทติ้งที่เพิ่มขึ้นจากสถิติพบว่ามาจากผู้ชมช่อง 7 ที่ไม่ต้องการดูข่าว” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการนำหุ้นบริษัท บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าคงต้องดูบรรยากาศการลงทุนใน ตลท.เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าอาจดำเนินการขายหุ้นไอพีโอในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยจะเสนอขายจำนวน 50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ส่วนราคาเสนอขายยังไม่ได้กำหนด