xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยโบ๊ท” พา “เพชรมงกุฎ” ร้องโอลิมปิคไทย ปมถูกโกงในซีเกมส์ “พิมล” เตรียมเชิญนายกสมาคมชี้แจง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เด้งรับทันทีหลังปีใหม่นี้ "บิ๊กพิมล" เตรียมเชิญนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นฯ ชี้แจงประเด็นล็อคผลแข่งซีเกมส์ 2025 ให้ชาติอื่น หลังได้รับการร้องเรียนจาก "เสี่ยโบ๊ท" โปรโมเตอร์มวยดัง และ นักชกสาว "มงกุฏเพชร" ชี้มีหลายประเด็นที่เป็นข้อกังขา แม้แต่ผู้แทนไอโอซียังงงกับผลที่ออกมา ย้ำชัดแม้ผลแข่งเปลี่ยนไม่ได้แล้ว แต่ต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีนักกีฬาไทยเต็มที่ พร้อมแสดงความกังวลมวยไทยที่ถูกครอบงำจากต่างชาติมากไป ถ้าไม่แก้ไขให้ถูกต้องอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตมวยไทยในเวทีโลกได้

"เสี่ยโบ๊ท" ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์มวยค่ายเพชรยินดี พร้อมด้วย "มงกุฎเพชร เพชรพราวฟ้า" หรือ อริศรา นุ่นเอียด นักชกสาวกีฬามวยไทยทีมชาติ เข้าพบ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณี "มงกุฏเพชร" รวมถึงนักชกไทยหลายคนแพ้คะแนนแบบค้านสายตา ทำให้ถูกมองว่ามีการล็อคผล และโดนแบ่งเหรียญกีฬามวยไทยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.สุวรรณา ศิลปอาชา รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, นายธนา ไชยประสิธทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาทีมชาติชุดซีเกมส์ ร่วมรับฟังด้วย ท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชนสายกีฬาของไทยเป็นจำนวนมาก

ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยฯ กล่าวว่า จากการได้รับฟังปัญหาของผู้เสียหาย โดยเฉพาะตัวนักกีฬา และการได้สอบถามคุณธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาที่อยู่ในเหตุการณ์ และ ได้อยู่ร่วมกับผู้แทนจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซี ที่เข้าไปสังเกตุการณ์ และรับชมการแข่งขันด้วย รวมถึงเสียงสะท้อนจากผู้สื่อข่าว และ แฟนกีฬามวยไทย ก็ค่อนข้างเห็นใจนักกีฬาและรู้สึกว่า มีอะไรที่ไม่น่าถูกต้องหลายเรื่อง และในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยที่ไม่ได้ดูแลแค่การจัดส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน แต่ยังต้องดูแลนักกีฬาก่อน-หลังการแข่งขันในส่วนที่สามารถเป็นปากเสียงและเป็นที่พึ่งให้นักกีฬา ดูแลเกียรติและศักดิ์ศรีให้นักกีฬาด้วย อย่างไรก็ตามหลังเข้าสู่ปีใหม่ ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ตนจะทำหนังสือเชิญนายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเข้ามาชี้แจงในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง และจะแก้ไขอย่างไร ทำอย่างไรต่อไป

"แน่นอนว่าขณะนี้เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันหรือทำอะไรได้มากกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญคือ เรื่องนี้ต้องมีการแก้ไขให้ถูกต้องให้กระจ่าง เพื่อจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก โดยเฉพาะในกีฬามวยไทย กีฬาที่เรามีความหวังจะผลักดันไปถึงโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งขนาดตัวแทนไอโอซีเข้ามานั่งดูเอง เขายังบอกคุณธนาถึงผลแข่งขันที่ออกมาค่อนข้างคิดคาดแบบนี้ ทั้งที่นักชกไทยฟอร์มดีและชกได้ดีกว่าแต่กลับเป็นฝ่ายแพ้ ผมคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง เพรสะเขาต้องนำกล้บไปรายงานในคณะกรรมการไอโอซี ซึ่งจะเป็นภาพลบต่อกีฬามวยไทยแน่นอน"

ขณะที่ "เสี่ยโบ๊ท" กล่าวว่า การพานักกีฬาเข้าพบประธานคณะกรรมการโอลิมปิคไทยในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงจุดยืนของตนและนักกีฬาที่ไม่ยอมรับในผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นในซีเกมส์ครั้งนี้ แม้การแข่งขันจะจบลงไปแล้ว แต่ตนก็ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้นักกีฬา เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และให้กรณีนี้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการ การบริหารของสมาคมกีฬามวยไทยฯ ซึ่งขณะนี้กลายเป็นกีฬาที่ให้ต่างชาติเข้ามาเป็นเจ้าของ ครอบงำอย่างเบ็ดเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้แต่การจะจัดแข่งชกมวยไทยนานาชาติยังต้องไปขออนุญาตจากสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ที่มีประธานเป็นชาวต่างชาติ ทั้งๆที่ "มวยไทย" เป็นกีฬาประจำชาติของไทย

"มันคือความน่าสงสารอย่างหนึ่งที่สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นของไทย แต่ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ มันเป็นเรื่องที่ถึงเวลาแล้วที่จะเรียกร้องให้พวกเรามาช่วยกัน มีพลังอำนาจด้านไหนก็ช่วยกันแก้ไขสิ่งนี้เพื่ออนาคตต่อไปของมวยไทยของเรา"

ด้าน "มงกุฎเพชร" กล่าวว่า วันนี้ถือว่าสบายใจบ้างที่ได้เข้าพบและได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ในคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ที่รับฟังปัญหาและพร้อมจะเข้ามาช่วยเหลือ แม้ผลแข่งขันจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้และยอมรับว่ายังเสียใจอยู่เพราะซีเกมส์ครั้งนี้ตนตั้งเป้าไว้ที่เหรียญทอง และ มั่นใจในฝีมือฟอร์มของตัวเองสามารถทำได้ แต่ก็ต้องมาเสียความรู้สึกกับผลที่ออกมาที่ค่อนข้างค้านสายตาและมีเสียงสะท้อนว่ามีการล็อคเป้าไว้ให้ชาติอื่น ซึ่งตนค่อนข้างเสียใจมาก ความรู้สึกเหมือนถูกโกง ตนก็หวังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะไม่เกิดขึ้นกับนักกีฬาคนไหนอีก

"ส่วนตัวหนูเองก็คงจะพอแล้วสำหรับการชกมวยไทยสมัครเล่น จากนี้ก็จะไปฝึกซ้อมเพื่อชกอาชีพของตัวเอง ยอมรับว่าเสียใจและเสียความรู้สึกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเก็บตัวที่ผ่านมาหนูก็ไม่ได้รับการดูแลในนามนักชกทีมชาติอย่างเต็มที่ เบี้ยเลี้ยงนอกจากจ่ายล่าช้าก็ยังถูกหักค่อนข้างเยอะ หนูได้รับแค่ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 3 เดือนก่อนแข่งหนูได้รับแค่ 24,000 บาท แต่หนูก็เต็มที่กับการฝึกซ้อมเพราะเป็นการแข่งในนามทีมชาติหนูก็หวังที่เหรียญทองแต่เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้หนูก็เสียใจมาก"

ในช่วงท้าย ผศ.พิมล กล่าวว่า ในเรื่องของมวยไทยสมัครเล่นยัฃมีประเด็นให้ต้องพูดคุยกันอีกเยอะโดยเฉพาะประเด็นที่ให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงและยึดไปบริหารและมีอำนาจจนทำให้โปรโมเตอร์มวยชาวไทย และ นักชกไทยถูกเอาเปรียบ เรื่องนี้คงต้องมีการหารือในภายหลังถึงการจัดการและแก้ไขต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น