คาร์ลตัน โคล หัวหอกผิวหมึกยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บช่วยให้ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด บุกไปทุบ “ช้างกระทืบโรง” โคเวนทรี ซิตี้ 2-1 พลิกเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ ประจำฤดูกาล 2007/08
ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
โคเวนทรี ซิตี้ 1-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก แม้ว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีจะครองบอลได้มากกว่า แต่ โคเวนทรี ซิตี้ ซึ่งรอบที่ผ่านมาพลิกล็อกบุกเล่นงาน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถต่อกรได้กับทีมจากพรีเมียร์ชิปได้อย่างสูสีทีเดียว แต่โอกาสแรกของเกมเป็นของ “ขุนค้อน” ที่ได้ซัดฟรีคิกระยะ 30 หลาจาก แม็ทธิว เอเธอริงตัน แต่บอลเหินข้ามคานออกไป

โดยเกมส่วนใหญ่เป็นการชิงจังหวะกันในแดนกลาง ถึงครึ่งทางของครึ่งแรก “ช้างกระทืบโรง” ได้โหมบุก ไมเคิล มิดซุฟ ได้ตะบันจากนอกกรอบบอลโดนบล็อกออกมา ในจังหวะต่อเนื่อง ลีออน เบสต์ ลากตะลุยตัดเข้ามาจากฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบบอลผ่านมือ ริชาร์ด ไรท์ แต่ก็ผ่านหน้าประตูไปเช่นกัน หลังจากนั้น โคเวนทรี เป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่ทีมเยือน แต่ผ่านชั่วโมง เวสต์แฮม โชคร้ายที่ไม่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นรวมถึงลูกโทษนอกเขต เมื่อ เบน เทอร์เนอร์ ทั้งเหนี่ยวทั้งล้มตัวขวาง หลุยส์ บัวมอร์ต แต่ ร็อบ สไตล์ส ผู้ตัดสินในนัดนี้ไม่เป่านกหวีดและก็กวักมือให้เล่นกันต่อไป จบ 45 นาทีแรกยังทำอะไรกันไม่ได้สกอร์ตรึงอยู่ที่ 0-0
ครึ่งเวลาหลัง อลัน เคอร์บิชลี่ย์ มีการปรับทัพให้ “ขุนค้อน” แห่งกรุงลอนดอนด้วยการหยอด โจนาธาน สเป็คเตอร์ กองหลังทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงมาเล่นแทน เฮย์เดน มัลลินส์ และทั้งสองฝ่ายก็ออกมาแลกเกมรุกกันมากกว่าครึ่งแรก โดย เวสต์แฮม มีโอกาสอีกครั้งก่อนเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เมื่อ เอเธอริงตัน เปิดลูกเตะมุมเข้าไปให้ คาร์ลตัน โคล กระโดดขวิดแต่บอลหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 61 แฟนๆ เจ้าบ้านต้องเฮเก้อแม้ว่า มิฟซุด จะส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่ายแต่เขาไปทำแฮนด์บอลในกรอบโทษเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 68 แฟนๆ “ช้างกระทืบโรง” ได้กระทืบเท้าดีใจจากจังหวะที่ทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาด ไซม่อน ออสบอร์น หยอดบอลไปให้ เจย์ แท็บบ์ ขึ้นมาโหม่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ โคเวนทรี ทะยานนำดังหวัง 1-0 แต่ดีใจได้แค่สองนาทีเศษ “ขุนค้อน” ตามตีเสมอทันควันเมื่อ บัวมอร์ต ได้ยิงบริเวณกรอบโทษก่อนที่บอลพุ่งไปแฉลบขา มาร์คส ฮอลล์ กองหลังเจ้าบ้านเข้าประตูไปสกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 เกมทำท่าจะเสมอและต้องต่อเวลาพิเศษ แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่สอง เวสต์แฮม มาได้ประตูชัย 2-1 เมื่อ โคล เบียด เทอร์เนอร์ หลุดเข้าไปยิงให้ทีมได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โคเวนทรี : แอนดี้ มาร์แชลล์ , เดวิด แม็คเนมี่ , อาร์ยัน เดอ ซูว์ , เบน เทอร์เนอร์ , มาร์คัส ฮอลล์ , เจย์ แท็บบ์ , ไมเคิล ดอยล์ , ไอแซค ออสบอร์น , จูเลี่ยน เกรย์ , ลีออน เบสต์ , ไมเคิล มิฟซุด
เวสต์แฮม : ริชาร์ด ไรท์ , ลูคัส นีลล์ , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , แม็ทธิว อัพสัน , จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ , ลี โบว์เยอร์ , เฮย์เดน มัลลินส์ , มาร์ค โนเบิล , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , หลุยส์ บัวมอร์ต , คาร์ลตัน โคล
ฟุตบอล คาร์ลิ่ง คัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย
โคเวนทรี ซิตี้ 1-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
เกมการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก แม้ว่า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งมีศักดิ์ศรีเป็นทีมในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีจะครองบอลได้มากกว่า แต่ โคเวนทรี ซิตี้ ซึ่งรอบที่ผ่านมาพลิกล็อกบุกเล่นงาน “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถต่อกรได้กับทีมจากพรีเมียร์ชิปได้อย่างสูสีทีเดียว แต่โอกาสแรกของเกมเป็นของ “ขุนค้อน” ที่ได้ซัดฟรีคิกระยะ 30 หลาจาก แม็ทธิว เอเธอริงตัน แต่บอลเหินข้ามคานออกไป
โดยเกมส่วนใหญ่เป็นการชิงจังหวะกันในแดนกลาง ถึงครึ่งทางของครึ่งแรก “ช้างกระทืบโรง” ได้โหมบุก ไมเคิล มิดซุฟ ได้ตะบันจากนอกกรอบบอลโดนบล็อกออกมา ในจังหวะต่อเนื่อง ลีออน เบสต์ ลากตะลุยตัดเข้ามาจากฝั่งขวาก่อนตัดสินใจยิงมุมแคบบอลผ่านมือ ริชาร์ด ไรท์ แต่ก็ผ่านหน้าประตูไปเช่นกัน หลังจากนั้น โคเวนทรี เป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่ทีมเยือน แต่ผ่านชั่วโมง เวสต์แฮม โชคร้ายที่ไม่ได้เปรียบเรื่องตัวผู้เล่นรวมถึงลูกโทษนอกเขต เมื่อ เบน เทอร์เนอร์ ทั้งเหนี่ยวทั้งล้มตัวขวาง หลุยส์ บัวมอร์ต แต่ ร็อบ สไตล์ส ผู้ตัดสินในนัดนี้ไม่เป่านกหวีดและก็กวักมือให้เล่นกันต่อไป จบ 45 นาทีแรกยังทำอะไรกันไม่ได้สกอร์ตรึงอยู่ที่ 0-0
ครึ่งเวลาหลัง อลัน เคอร์บิชลี่ย์ มีการปรับทัพให้ “ขุนค้อน” แห่งกรุงลอนดอนด้วยการหยอด โจนาธาน สเป็คเตอร์ กองหลังทีมชาติสหรัฐอเมริกาลงมาเล่นแทน เฮย์เดน มัลลินส์ และทั้งสองฝ่ายก็ออกมาแลกเกมรุกกันมากกว่าครึ่งแรก โดย เวสต์แฮม มีโอกาสอีกครั้งก่อนเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เมื่อ เอเธอริงตัน เปิดลูกเตะมุมเข้าไปให้ คาร์ลตัน โคล กระโดดขวิดแต่บอลหลุดกรอบออกไป นาทีที่ 61 แฟนๆ เจ้าบ้านต้องเฮเก้อแม้ว่า มิฟซุด จะส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่ายแต่เขาไปทำแฮนด์บอลในกรอบโทษเสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 68 แฟนๆ “ช้างกระทืบโรง” ได้กระทืบเท้าดีใจจากจังหวะที่ทีมเยือนเคลียร์บอลไม่ขาด ไซม่อน ออสบอร์น หยอดบอลไปให้ เจย์ แท็บบ์ ขึ้นมาโหม่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ โคเวนทรี ทะยานนำดังหวัง 1-0 แต่ดีใจได้แค่สองนาทีเศษ “ขุนค้อน” ตามตีเสมอทันควันเมื่อ บัวมอร์ต ได้ยิงบริเวณกรอบโทษก่อนที่บอลพุ่งไปแฉลบขา มาร์คส ฮอลล์ กองหลังเจ้าบ้านเข้าประตูไปสกอร์กลับมาเสมอกันที่ 1-1 เกมทำท่าจะเสมอและต้องต่อเวลาพิเศษ แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่สอง เวสต์แฮม มาได้ประตูชัย 2-1 เมื่อ โคล เบียด เทอร์เนอร์ หลุดเข้าไปยิงให้ทีมได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โคเวนทรี : แอนดี้ มาร์แชลล์ , เดวิด แม็คเนมี่ , อาร์ยัน เดอ ซูว์ , เบน เทอร์เนอร์ , มาร์คัส ฮอลล์ , เจย์ แท็บบ์ , ไมเคิล ดอยล์ , ไอแซค ออสบอร์น , จูเลี่ยน เกรย์ , ลีออน เบสต์ , ไมเคิล มิฟซุด
เวสต์แฮม : ริชาร์ด ไรท์ , ลูคัส นีลล์ , แอนตัน เฟอร์ดินานด์ , แม็ทธิว อัพสัน , จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ , ลี โบว์เยอร์ , เฮย์เดน มัลลินส์ , มาร์ค โนเบิล , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , หลุยส์ บัวมอร์ต , คาร์ลตัน โคล