xs
xsm
sm
md
lg

มูรินโญ คนอหังการ / ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เสือสองตัวในถ้ำเดียวกัน / คอลัมน์ "สุดฟากสนาม" โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี

หลังปฏิเสธรายชื่อซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายแหล่ที่เจ้าของทีมพยายามยัดเยียดให้ นั่นเท่ากับ มูรินโญ ออกมาแสดงจุดยืนของตนเองอย่างเด่นชัด ว่าจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาก้าวก่ายการวางแผนและการทำทีมของตัวเขาเองเป็นอันขาด

ทว่าเหนือฟ้า ยังมีฟ้า เหนือคนอหังการยังมีคนชื่อ โรมัน อบราโมวิช

“นี่เป็นชื่อที่ลื้อมิอาจปฏิเสธได้ เพราะมันเป็นเพื่อนซี้อั๊วเอง ยังไง อังเดร เชฟเชนโก ก็ต้องมาเป็นผู้เล่นของเชลซีวันยังค่ำ”

แม้กุนซือชาวโปรตุกีส จะยังพยายามทัดทานดาวเตะค่าตัว 30 ล้านปอนด์จาก เอซี มิลาน สุดท้ายแล้วก็ไม่เป็นผล ประธานชาวรัสเซียน กระชากลากตัว “เชว่า” หรือเทพบุตรลูกหนังจากยูเครน เข้าสู่ถิ่นแสตมฟอร์ด บริดจ์ จนได้ในช่วงซัมเมอร์ก่อนออกสตาร์ทฤดูกาล 2006-2007

นี่คือตะปูตัวที่สองซึ่งตอกลงไปกลางใจของชายชื่อ มูรินโญ หลังจากดอกแรกที่ “เสี่ยหมี” นำแฟรงค์ อาร์เนเซ่น เข้ามาดูแลศูนย์ฝึกเยาวชน เป็นการกระทำที่ดูเหมือนไม่เคารพสัญญาลูกผู้ชาย ที่เคยบอกว่าจะมอบอำนาจสิทธิขาดในการทำทีมและการซื้อนักเตะให้กับ มูรินโญ เพียงผู้เดียว จวบจนวันสุดท้ายของเขาในถิ่นแสตมฟอร์ด บริดจ์

ก่อนหน้านี้ยอดกุนซือคือ “The Special One” ผู้ที่ทำให้ทุกคนต้องสยบ แม้กระทั่งคำพูดของเขายังเปรียบได้ดั่งกฎเหล็กที่ลูกทีมมิอาจขัดขืนได้

ยกตัวอย่างเช่นการที่เขานำกฎห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในสนามซ้อมอย่างเด็ดขาดเข้ามาใช้ในอังกฤษ นั่นเป็นสิ่งที่เขาได้มรดกสืบทอดมาตั้งแต่สมัยเป็นผู้ช่วยของบ็อบบี้ ร็อบสัน และหลุยส์ ฟาล กัล ที่จะสั่งให้ลูกทีมทุกคนปิดโทรศัพท์ให้หมดทันทีเพื่อสมาธิและความเป็นมืออาชีพ

แม้ระยะแรกลูกทีมเชลซี จะแข็งขืนและพยายามล็อบบี้กันเองเพื่อแสดงความไม่ยอมรับในข้อบังคับนี้ เพราะก่อนหน้าในสมัยของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ บรรยากาศในการฝึกซ้อมจะสบายๆและเป็นกันเอง แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องยอมรับในกฎของ “มูรินโญ”

“ผมพูดกับพวกเขาอย่างชัดเจนถึงเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง เชลซี หลังจากนั้นก็ย้ำอีก แถมบางครั้งยังให้บรรดาผู้เล่นตรวจสอบกันเองด้วยการโทรเช็คเพื่อนๆด้วยว่า ใครที่ลืมปิดเครื่องบ้าง คนนั้นจะโดนเล่นงานทันที” กุนซือจอมเครียดกล่าว

นั่นคือมุมที่ มูรินโญ เอาชนะลูกน้องได้ แต่กับเจ้าของทีมแล้ว มันอาจเป็นหนังคนละเรื่องกัน หลังการนำตัว เชฟเชนโก มาโดยพลการของอบราโมวิช ความสัมพันธ์ของประธานสโมสรกับผู้จัดการทีมคู่นี้ก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

มูรินโญ เองถือคติว่า อยากซื้อมาก็ซื้อ ตนไม่ส่งลงเล่นซะอย่าง ประธานสโมสรจะทำอะไรได้

ขณะเดียวกันอบราโมวิช เล่นสงครามจิตวิทยาเหมือนกัน ประกาศว่าไม่มีเงินสนับสนุนให้ซื้อนักเตะบ้าง ไม่ยอมลงไปแสดงความยินดีกับนักเตะในห้องแต่งตัวเหมือนเคยบ้าง หรือแม้กระทั่งชมการแข่งขันอยู่ดีๆ เมื่อเชลซี โชว์ฟอร์มไม่เข้าตาก็ลุกออกจากที่นั่งชั้นวีไอพี ไม่ยอมอยู่จนจบเกมซะอย่างนั้น

เรื่องการแตกคอของคนคู่นี้ หลายคนอาจมองว่า อบราโมวิช คือผู้ร้ายที่จุดประเด็นเข้ามายุ่มย่ามกับการทำงานของ มูรินโญก่อน แต่อีกมุมก็สามารถสะท้อนความโอหังแข็งกร้าวประเภทยอมหักไม่ยอมงอของกุนซือผู้นี้เช่นกัน แม้กระทั่งกับเจ้านายผู้จ่ายเงินเดือนให้ตนเอง

สุดแท้แต่ที่ใครจะเลือกมองมุมใดเท่านั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น