เสียงกลองกระหึ่ม!!เปิดยกลูกเหล็กชิงแชมป์โลกที่เชียงใหม่

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกระหว่างวันที่ 16-26 กันยายนนี้ ซึ่ง ไทย รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อช่วงหัวค่ำของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการแสดงที่เน้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

ที่สำคัญการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่เชียงใหม่ในรายการนี้ ยังใช้เพื่อเป็นการคัดตัวนักกีฬาไปแข่งขันใมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ในปีหน้าอีกด้วย

สำหรับพิธีเปิดเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยจังหวัดเชียงใหม่ เริ่มต้นด้วยการเชิญธงและป้ายจากชาติต่างๆ ที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ถึง 98 ประเทศ โดยไม่ได้ใช้นักกีฬาหรือตัวแทนจากชาติทั้งหมด เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างแคบ แต่ให้นั่งชมความงามอยู่ด้านบนแทน

จากนั้นเป็นการกล่าวของ พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย ประธานจัดยกน้ำหนักชิงแชมป์โลก และปิดท้ายด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ผู้แทนพระองค์ กล่าวในฐานะเป็นประธานเปิดงาน ต่อด้วยการแสดง 3 ชุดสุดอลังการ

ชุดที่ 1 "บารมีหว่านฟ้า" หมายถึงการตีกลองเพื่อแสดงถึงพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ปกแผ่ไพศาลทั่วผืนแผ่นดินไทยทั้ง 4 ภาค เหล่าพสกนิกรอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ภายใต้ร่มพระบามี อันมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนชาวไทย

ชุดที่ 2 "ประชาแซ่ซ้อง" หมายถึงการตีกลองที่แสดงถึงพระเมตตาที่ทรงมีให้พสกนิกร ประดุจพ่อมีต่อลูก ที่ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เป็นเวลายาวนาน ทำให้ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างพร้อมใจกันแซ่ซ้อง สรรเสริญ สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่

ชุดที่ 3 "กึกก้องเภรี" หมายถึงการรวมพลังความสามัคคีแห่งปวงชนชาวไทยทั่วประเทศ โดยใช้เสียงกลองอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยแต่ละภาค แสดงให้เห็นถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่ได้รับการสืบทอดกันมาควบคู่กับผืนแผ่นดินไทยตราบจนถึงปัจจุบัน

การแสดงทั้งหมดเน้นการตีกลองเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยเป็นการร้อยเรียงเสียงกลองชนิดต่างๆ ประมาณ 11 ชนิดของแต่ละภาค เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งเสียงที่ประทุอย่างกึกก้อง เปรียบประดุจพระบารมีอันยิ่งใหญ่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่แผ่ไพศาลไปทั่วจักรวาล

สำหรับพิธีเปิดเน้นใช้คนจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด โดยทางด้านวิทยาลัยนาฎศิลป์เชียงใหม่ รับผิดชอบในส่วนพิธีการจัดรูปขบวนรับเสด็จ และขบวนนักกีฬารวมจำนวนทั้งสิ้น 170 คน ส่วนโรงเรียนดาราวิทยาลัย รับผิดชอบบรรเลงเพลงต่างๆ